บทที่ 12
ย้อนกลับไปตอนนั้นในคุก หลิง อี้หราน อยู่คนเดียวถ้าเหลียนอี ไม่มาเยี่ยมเธอบ่อย ๆ เพื่อให้กำลังใจเธอและเทียวไปที่นั่น ที่นี่ทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเธอ หลิง อี้หรานอาจไม่ได้เดินออกจากคุกทั้งชีวิตก็เป็นได้
เหลียนอีเป็นคนที่คอยให้การดูแลสนับสนุนเธอตลอดสามปีที่ผ่านมา
"ฟางช่วยชีวิต...?" ดวงตาของอี้ จิ่นหลี เปล่งประกาย ชิน เหลียนอี ดูเหมือนจะเป็นสถานที่พิเศษในหัวใจของหลิง อี้หราน, อี้ จิ่นหลี ถาม "แล้วพี่ไม่คิดเหรอว่ามันเป็นเรื่องตลกที่จะปฏิบัติต่อคน ๆ หนึ่งเป็นฟางช่วยชีวิต? ถ้าฟางช่วยชีวิตทอดทิ้งพี่ไปแล้วพี่จะไม่รู้สึกสิ้นหวังเหรอ?”
อี้ จิ่นหลี ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจ เขาไม่ชอบที่หลิง อี้หราน เชื่อใจคนอื่น ดูเหมือนเธอจะเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อคน ๆ นั้น
…
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าปริมาณงานของหลิง อี้หราน จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากเจ้าหน้าที่บริหารจากศูนย์บริการสุขาภิบาลจะเข้ามาตรวจสอบในบางครั้งเธออาจจะต้องทำงานล่วงเวลา
โชคดีที่เมื่อเธอกลับบ้านมา จินจะเตรียมอาหารเย็นไว้รอเธอและนั่นทำให้หัวใจของเธออบอุ่นขึ้น
เธอได้บอกจินว่าให้เขากินข้าวเย็นไปก่อนถ้าเธอกลับบ้านดึก แต่เขายืนยันที่จะรอเธอเพื่อกินข้าวเย็นพร้อมกัน
ในตอนนี้เธอรู้สึกว่าพวกเขาสองคนอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ให้เช่าเล็ก ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับกันและกันว่านั่นเป็นความรู้สึกเมื่อคน ๆ หนึ่งมีน้องชาย
รุ่งเช้าวันต่อมาหลังจากทำความสะอาดถนนที่เธอได้รับมอบหมายแล้ว หลิง อี้หราน ก็กลับไปที่ศูนย์บริการสุขาภิบาลหลังจากเก็บเครื่องมือ เธอยืนอยู่ที่สนามหญ้าหน้าทางเข้า
หลังจากนั้นไม่นานผู้ตรวจการจากสำนักงานบริหารเมืองก็มาถึง ทุกคนที่ทำหน้าที่กวาดถนนต่างยืนบนสนามหญ้าเพื่อต้อนรับผู้ตรวจทำให้สะดวกในการรายงาน
ร่างที่ผอมของหลิง อี้หราน โดดเด่นจากกลุ่มหญิงวัยกลางคน
"อี้หราน คุณคือหลิง อี้หราน!" เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไปถึงศูนย์บริการสุขาภิบาลผู้หญิงอายุประมาณ 28 ปีก็ตะโกนออกมาเมื่อเธอเห็น หลิง อี้หราน
หลิงอี้หรานเงยหน้าขึ้นและเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสูทสีฟ้าอ่อน ผมของเธอยาวเป็นมวยและเธอมีใบหน้ากลมและดวงตาที่แคบเธอดูธรรมดา แต่การแต่งหน้าของเธอทำให้เธอดูดี
หลิง อี้หราน ตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะจำเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเธอ เหมียว เจียยู่
“เธอนั่นเอง!” เหมียว เจียยู่ มองไปที่หลิง อี้หราน ด้วยความประหลาดใจขณะที่เธอถาม“ ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่? ตอนนี้เธอเป็น... คนงานสุขาภิบาลเหรอ?”
"ใช่ ฉันทำงานอยู่ที่นี่" หลิง อี้หราน ตอบ เธอไม่ได้ละสายตาไปจากสายตาของเหมียว เจียยู่ ท้ายที่สุดแล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอเพื่อนเก่า ไม่ว่าจะน่าอายแค่ไหนเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน
"เจียยู่ คุณรู้จักกันเหรอ?" เพื่อนร่วมงานของเหมียว เจียยู่ ที่มาพร้อมกับเธอถาม
"ใช่แล้ว ย้อนกลับไปตอนนั้นอี้หรานเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในชั้นเรียนและเป็นหัวกะทิชั้นยอดของเรา เธอมักจะติดอันดับในชั้นเรียนเสมอ ผู้ชายหลายคนในชั้นเรียนชอบเธอและอยากจีบเธอแต่เธอไม่ชอบพวกเขาเลย" เหมียว เจียยู่ บอกกับเพื่อนร่วมงานของเธอ เธอยกย่อง หลิง อี้หราน เหมือนสูงส่งอยู่บนท้องฟ้าอย่างจงใจ
ยิ่งเธอทำแบบนั้นมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกับสถานการณ์ที่ หลิง อี้หราน เป็นอยู่ในขณะนี้
เป็นไปตามคาด เพื่อนร่วมงานขมวดคิ้วและแสดงความคิดเห็นว่า "เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในชั้นเรียนหรือเปล่า? เธอต้องล้อเล่นแน่ ๆ !"
อย่างไรก็ตาม หงส์ตัวนี้ลงเอยด้วยการกวาดถนน!
เมื่อเพื่อนร่วมงานของหลิง อี้หราน ได้ยินสิ่งที่ เหมียว เจียยู่ พูดพวกเขาก็หันไปมอง หลิง อี้หราน ด้วยสีหน้าต่างกันบางคนดูประหลาดใจบางคนมองเธอด้วยความเห็นใจและบางคนก็ล้อเลียนเธอ
วันต่อมาหลังจากที่ หลิง อี้หราน กวาดถนนเสร็จและกลับไปส่งเครื่องมือคืน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในแผนกเครื่องมือถามเธอด้วยความสงสัยว่า "อี้หราน คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในชั้นเรียนและเป็นนักวิชาการระดับสูงเมื่อคุณอยู่ในโรงเรียน?"
หลิง อี้หราน ไม่ได้ตอบ ฟาง เชี่ยนเชี่ยน ผู้หญิงอีกคนจากแผนกเครื่องมือ ตะโกนว่า "การเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในชั้นเรียนและหัวกะทิใช้อะไรได้บ้าง? ถ้าเธอมีความสามารถเธอก็คงจะได้งานอื่น”
หญิงสาวที่ถามคำถามกับหลิง อี้หราน มองไปที่ หลิง อี้หราน ด้วยความลำบากใจ แต่ หลิง อี้หราน เพียงก้มหน้าลงหลังจากที่เธอเซ็นชื่อในสมุดบันทึกการขนส่งแล้วเธอก็ออกไป
พี่ซูจับตัวเธอและตบไหล่เธอว่า "อย่าเอาคำพูดของฟาง เชี่ยนเชี่ยน มาใส่ใจ เธอระบายความโกรธใส่เธอเพราะเธอชอบอากั๋ว คนขับรถ"
หลิง อี้หราน ดูงุนงงขณะที่เธอไม่รู้ว่านพี่ซูหมายถึงใครและอากั๋วเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ
"อากั๋วเป็นหนึ่งในคนขับรถของเราและดูเหมือนเขาจะสนใจเธอนะ เขาทักทายเธอเสมอ" พี่ซูตอบ เธอกังวลเรื่องหลิง อี้หราน อย่างแท้จริงขณะที่เธอพูด "อากั๋วเป็นคนดีและศูนย์ก็มีแผนสำหรับเขา พ่อแม่ของเขาซื้อบ้านให้เขา เพื่อไว้ให้เขาแต่งงานด้วย เธออาจปราถนาที่จะอยากให้เขาพิจารณา"
หลิง อี้หราน ส่ายหัวขณะที่เธอตอบว่า "ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณนะคะ ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะมีความสัมพันธ์ใด ๆ"
"เธออายุ 27 ปี แล้วนะ พอผู้หญิงอายุมากขึ้นจะหาคู่ได้ยากขึ้นเช่นกัน"
"ในกรณีนั้นฉันจะยังคงเป็นโสดค่ะ" หลิง อี้หราน ตอบหลังจากที่เธอออกมาจากคุกเธอก็ไม่ได้เก็บงำความหวังในความสัมพันธ์อีกต่อไป
ย้อนกลับไปตอนนั้น เซียว จื่อฉี ได้ทำสัญญากับเธอหลายต่อหลายอย่าง สุดท้ายเเล้วตอนที่เขาเห็นเล็บ 10 นิ้วของเธอถูกดึงออกมาในคุกและไม่แม้แต่จะชายเปลือกตามามอง เขาเพียงแค่แสดงความคิดเห็นให้เธอขอร้อง
ตั้งแต่นั้นมาความรู้สึกทั้งหมดที่เธอมีให้เขาก็สลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
เธอฝันถึงฉากนั้นหลายครั้งและจบลงด้วยความเหงื่อท่วม
หลายครั้งเมื่อใดก็ตามที่เธอรู้สึกเจ็บที่นิ้วเธอจะบอกตัวเองว่าความรักนั้นมันช่างโหดร้าย
เธอไม่มีความปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์อะไรแบบนั้นอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นอดีตนักโทษอีกด้วย มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะได้งานทำ นับประสาอะไรกับการได้สามี! ใครกันที่จะไม่รังเกียจว่าเธอมีประวัติอาชญากรรม?
เมื่อหลิงอี้หรานแสดงความคิดเห็นนั้นทันใดนั้นเธอก็นึกถึงจินขึ้นมา เธอสามารถซื้อโทรศัพท์มือถือให้จินได้ทันทีที่เธอได้รับเงินเดือนในอีกไม่กี่วัน
“เฮ้อ เธอนี่นา...” พี่ซูถอนหายใจและไม่พูดต่อ
ในวันที่เงินออก หลิง อี้หราน พา อี้ จิ่นหลี ไปที่ตลาดเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง
“มันไม่เป็นไรที่ผมไม่มีโทรศัพท์มือถือ” อี้ จิ่นหลี กล่าว เขาไม่ได้คาดหวังว่า หลิง อี้หราน จะได้ซื้อโทรศัพท์มือถือให้เขา
“ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็มีโทรศัพท์มือถือทั้งนั้นเเหล่ะ มันจะสะดวกกว่าสำหรับบริษัทต่าง ๆ ที่จะติดต่อนายเมื่อนายสมัครงาน นายไม่สามารถที่จะแจกใบปลิวไปได้ตลอดชีวิตหรอกนะ” หลิง อี้หราน กล่าว “ยิ่งไปกว่านั้นถ้านายมีโทรศัพท์มือถือ มันจะสะดวกกว่าที่เรา จะบอกกันให้รู้ถ้าเราจะกลับบ้านช้า"
พวกเขาสองคนมาถึงแผงขายของในตลาดที่ขายโทรศัพท์มือถือมีหลายรุ่น แต่หลิง อี้หราน จ่ายได้เพียงประมาณ 1,500 หยวน เธอตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ตและเลือกรุ่นไม่กี่รุ่น ในไม่ช้าเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือไม่กี่เครื่องที่เธอเลือก และถาม อี้ จิ่นหลี ให้เขาเลือกเครื่องที่เขาชอบ
"ฉันสามารถซื้อได้เฉพาะรุ่นเก่า ๆ พวกนี้ แต่ว่าฉันได้ตรวจสอบรุ่นพวกนี้แล้วและก็พบว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคาการกำหนดค่าก็ดีด้วย ใช้อันนี้ไปก่อนนะ เมื่อฉันหาเงินได้มากขึ้นฉันจะ....”