บทที่ 14 ความจริงถูกเปิดเผย
มันเป็นเวลาหนึ่งทุ่ม
ในสำนักงานผู้อำนวยการของบริษัทจีเอช
“ผู้อำนวยการแฮงคส์ ผมพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเธอแล้ว เธอชื่อชินี เยลส์ และเธอเป็นฝาแฝดของ ญานี!” แชนนอน เกตส์กล่าวขณะส่งเอกสารให้ชาร์ลส์ แฮงค์ส
“อืม” ดูเหมือนเขาจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรมาก เขาเพียงรับมืออย่างใจเย็น เขาไม่ได้หยุดมือจากเอกสารที่เขากำลังทำอยู่ด้วยซ้ำ
แชนนอนออกไปอย่างเงียบ ๆ และปิดประตู
ชาร์ลส์เซ็นชื่อของเขาในหน้าสุดท้ายของสัญญาและวางปากกาในมือลง
หลังจากนั้น เขาหยิบเอกสารที่แชนนอนนำมาให้แล้วเปิดดู
ชินี เยลส์จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอ๊คซิตี้ เมื่ออายุ 20 ปี
พวกเขาเป็นแฝดเหมือน ต่างเป็นลูกสาวของจาคอบ เยลส์และอดีตภรรยาของเขา
ทั้งคู่หย่าร้างกันในภายหลังและแต่ละคนรับหน้าที่ดูแลลูกสาวคนหนึ่ง
มีอา เบลน ไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ เนื่องจากความสัมพันธ์ชู้สาวของเธอ ท้ายที่สุด เธอย้ายไปที่โอ๊คซิตี้กับคนรักใหม่ของเธอ
ชินี เยลส์ เป็นพวกขวางโลก หัวขโมยและโกหกตลอดชีวิตของเธอ เธอเคยทำแท้งสองครั้งในช่วงมัธยมต้นเนื่องจากขาดความสนใจจากทั้งพ่อและแม่ของเธอ ชีวิตส่วนตัวของเธอถูกรบกวนเป็นอย่างมาก
ความไร้เดียงสา, ความขี้ขลาด, ความเมตตา, ความประหม่า, ความสุภาพล้วนเป็นเพียงฉากหน้าของเธอ
หนึ่งปีที่แล้ว มีอาป่วยด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และคนรักของเธอก็ทิ้งเธอไป
ทั้งสองคนขาดเงินและมีอาก็เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยมีชินีเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาล
ครึ่งปีที่แล้ว ชินี เยลส์ถูกจับได้ว่าเป็นชู้กับชายที่แต่งงานแล้วในโอ๊คซิตี้ ดังนั้น เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขายบ้านและมาที่บรูคลินพร้อมกับแม่ของเธอ
ชาร์ลส์อ่านเนื้อหาแล้วรู้สึกมันรบกวนใจเขามาก
จากนั้นเขาก็โยนแฟ้มลงถังขยะ
ณ คฤหาสน์ของพวกเยลส์
"อะไรนะคะ?" ทันทีที่ญานี เยลส์กลับถึงบ้าน เธอก็รีบไปหาแม่เลี้ยงแล้วถามว่า "คุณแม่เพิ่งพูดว่าเขากำลังสืบเรื่องชินีอยู่เหรอคะ"
“เขาต้องเคยเจอเธอแล้ว ไม่อย่างนั้น มันก็เป็นไม่ได้ที่เขาจะสืบเรื่องเธอ!” เวนดี้ จิลส์พูดเบาๆ ขณะนั่งดื่มกาแฟอยู่บนโซฟา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ญานีก็ตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก เธอรีบพูดว่า “เขาไปโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เขาต้องเห็นเธอที่โรงพยาบาลแน่ แม่คะ หนูควรทำอย่างไรดี เขาจะสนใจเธอไหม เขาจะรู้ว่าเป็นเธอที่แกล้งทำเป็นหนูในคืนนั้นไหม?"
เวนดี้วางแก้วกาแฟในมือลงแล้วมองดูเธอ “ญานี แม่ต้องบอกลูกอีกกี่ครั้งว่าลูกไม่ควรหวั่นไหวเมื่อมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น ลูกเป็นลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจ ลูกควรจะสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา!”
“แต่, แต่ว่า...” ญานีตะกุกตะกัก
“ลูกไม่มีวันดีไปกว่าแม่นั่นถ้ายังเป็นอย่างนี้!” เวนดี้ขัดเธอ
ญานีรู้โดยธรรมชาติว่าแม่เลี้ยงของเธอหมายถึงใคร เธอทำหน้าบึ้ง “หนูยังกังวลอยู่ดี หนูจะหมั้นกับเขาในอีกสองวัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น... แล้ว...”
“มันไม่ง่ายเลยกว่าพวกเราจะมาถึงจุดนี้ แล้วแม่จะปล่อยให้เกิดปัญหาอะไรกับหนูได้?” เวนดี้ลูบผมของเธอแล้วพูดว่า "ไม่ต้องห่วง เขาจะไม่พบอะไรเลย แม่เตรียมข้อมูลไว้แล้ว!"
"ฮะ?" ญานี มองเธออย่างฉงน “แม่คะ นี่แม่ปลอมแปลงข้อมูลหรือคะ”
“แม่คาดอยู่แล้วว่าแม่นั่นจะไม่เชื่อฟังที่คำสั่งที่ให้อยู่ในโอ๊คซิตี้ต่อไป ฮิฮิ หล่อนหาเรื่องเองนะ แม่จะนำหล่อนไปสู่ความตายอย่างเต็มที่เชียว!”
มีแววระอุในดวงตาและรอยยิ้มหยันบนใบหน้าของเธอ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเธอแล้ว
"ขอบคุณค่ะแม่ แม่เยี่ยมที่สุด!" ญานีร้องแล้วกอดกับแม่เลี้ยงของเธอ
เธอไม่ชอบชินี เยลส์ จริงๆ
เธอเกลียดที่มีคนหน้าเหมือนเธอ
สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดก็คือ ชินีไม่ได้ดูเหมือนคนบ้านนอกเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะเติบโตมาในพื้นที่ห่างไกลและยากจน แต่เธอกลับมีท่าทีสงบนิ่งและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเวนดี้จึงพูดบ่อยๆ ว่าเธอตกตะลึงได้ง่ายๆ
“ว่าแต่คุณพ่ออยู่ไหนคะ” ญานียืนขึ้นและมองไปรอบๆ แต่เธอไม่เห็นพ่อของเธอที่ไหนเลย
“พ่อของหนูคงไปโรงพยาบาลแล้วล่ะ” เวนดี้ยิ้มบางๆ แล้วหยิบกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้ง
“อะไรนะ เขาไปโรงพยาบาลงั้นหรือ ทำไมแม่ไม่ไปกับเขาล่ะคะ ถ้าพ่อเห็นผู้หญิงคนนั้น...ถ้าเกิดเขาใจอ่อนกับเธอขึ้นมาล่ะ” ญานีเป็นกังวล
ผู้หญิงที่เธอพูดถึงก็คือแม่แท้ๆ ของเธอ ซึ่งเธอดูถูกมาตลอด
"ฮ่า" เวนดี้ยิ้มและพูดอย่างมั่นใจ “แม่คิดว่า... พ่อของหนูน่าจะเกลียดหล่อนมากกว่าหนูเสียอีก!”
"ทำไมล่ะคะ?" ญานีงง
เธอไม่ชอบแม่ผู้ให้กำเนิดเพราะต่างแยกห่างกันตั้งแต่เธอยังเด็ก และเธอไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ กับเธอเลย
เจคอบกับมีอาแต่งงานกันมาหลายปีก่อนจะหย่ากัน ทำไมพวกเขาถึงเกลียดชังกันนัก?
“ลูกยังเด็กอยู่ จะถามไปทำไมมากมาย ไปมาส์กหน้าซะ แล้วพรุ่งนี้ก็ไปเลือกชุด วันมะรืนลูกก็หมั้นแล้ว ลูกต้องเป็นคุณนายแฮงคส์ในสภาพสมบูรณ์” เวนดี้แนะนำเธอ
"ขอบคุณค่ะแม่!" ญานีหอมแก้มแม่เลี้ยงของเธอแล้วเดินบันไดไปชั้นบนด้วยรอยยิ้ม
"หึ" เวนดี้หัวเราะเยาะและเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย “มีอา เธอจะไม่มีวันเอาชนะฉันได้!”