บทที่ 13 เสพติดการตบฉัน?
“ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ… ว่าทั้งคู่จะแอบมาที่นิวยอร์ก!”
ญานี เยลส์ถอดแว่นกันแดดออกเพราะไม่มีผู้ป่วยคนอื่นอยู่ในวอร์ด
มีอา เบลนล็อกประตูวอร์ด เธอขยับไปด้านหน้าสองก้าวแล้วพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ญานี...”
ญานีหันกลับมามองเธอ แววตาของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เธอยังพูดแดกดันว่า “ถึงกับพาตัวเองมาที่นี่ ไม่กลัวตายหรือไง?”
ชินีก้าวมาข้างหน้าแล้วดึงมีอาไปหลบด้านหลัง มองเธออย่างเย็นชาและพูดว่า “ถ้าเธอไม่รู้ว่าอะไรควรพูดก็หุบปากซะ!”
ญานีแค่นเสียงดูถูกพลางยักไหล่ เห็นได้ชัดว่าเธอมองแม่เป็นตัวตลก
“ชินี เยลส์ ความจำของเธอแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ เธอลืมที่คุณพ่อเคยพูดแล้วหรือไง?” เธอเยาะเย้ย
“ญานี...” มีอาสะอื้น
เธอยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมญานีถึงจงเกลียดจงชังพวกเธอ
ญานีไม่สนใจมีอาและมองออกไปนอกหน้าต่าง จากนั้นเธอก็ขู่ว่า “พ่อบอกว่าเธอควรกลับไปเมืองโอ๊คซิตี้แล้วไม่ต้องโผล่หน้ากลับมานิวยอร์กอีก ไม่อย่างนั้น…”
เธอหันกลับพร้อมเยาะเย้ยว่า "เธอจะต้องตายอย่างอนาถ!"
“ญานี อย่าบอกเขานะ เรากำลังจะไป เราจะไปเดี๋ยวนี้...” มีอาขอร้องขณะที่เธอรีบเดินไปที่ตู้แล้วเปิดมันออก เธอหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วร้องว่า "ญานี อย่าบอกพ่อของหนูนะ เรากำลังจะไปเดี๋ยวนี้!"
เธอรู้ความเจ้าอารมณ์ของสามีเก่า เมื่อเขาอารมณ์เสีย จาคอบ เยลส์จะห้ามตัวเองไม่ได้
ชินีไม่พูดอะไรเลยและเดินตรงไปหาแม่ของเธอ
ญานีเลิกคิ้วแล้วยิ้มเยาะ
"ทำไมเราถึงต้องไป" ชินีถามขณะที่เธอจับมือมีอา และมองญานีอย่างเย็นชา
ญานีขมวดคิ้วและพ่นลมหายใจ “นี่ เดี๋ยวนี้เธอกล้าท้าทายคุณพ่อเหรอ?”
“ญานี ได้โปรดอย่าโกรธเลย เราจะไปทันที…” มีอาขอร้อง
"เอาเลย!" ชินีจ้องเขม็ง เธอยิ้มให้ญานี “ถ้าเขาต้องการให้ฉันตายอย่างอนาจก็เอาเลย ฉันอยากรู้ว่าฉันจะลงเอยยังไง!”
บ้านถูกขายไปแล้ว และแม่ของเธอป่วยหนัก
มีอะไรให้เธอสูญเสียได้อีกเล่า?
ในเมื่อเธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ เธอจึงต้องเผชิญหน้ากับมัน!
ชินี เยลส์ ไม่เคยขี้ขลาด!
ญานี ชื่นชมความพยายามของชินีด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เธอกล่าวว่า "เยี่ยม นั่นดีพอแล้ว!"
“ญานี...”
"หุบปาก!" ญานีมองมีอาอย่างดูถูกและพูดว่า “ขอโทษนะ อย่าเรียกชื่อฉันด้วยปากต๊อกต๋อยของเธอ นี่เราไม่ได้ชัดเจนเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนแล้วเหรอ?”
ดวงตาของมีอาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก และเธอพูดไม่ออก
“แม่คะ อย่าเศร้าไปเลย...” ชินีโอบไหล่แม่แล้วปลอบเธออย่างอ่อนโยน “แม่ไม่รู้หรือว่าชื่อของแม่ก็ไม่ได้มีไว้ให้สัตว์เรียกเหมือนกัน”
ญานีชะงักไปครู่หนึ่งแล้วใบหน้าของเธอก็แข็งทื่อ โดยไร้ความปราณี เธอรีบวิ่งไปหาชินีและกำลังจะตบหน้าเธอ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของชินี ชินีก็คว้าข้อมือของเธอไว้แล้วยิ้มเยาะ พลางพูดว่า "เป็นอะไรไป? เธอเสพติดการตบฉันหรือไง?"
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอเคยยืมเงินจากพ่อของเธอสามครั้ง
ครั้งแรก เธอรอเจคอบที่บันได ญานีลงบันไดมาและแสร้งทำเป็นตกบันไดและพยายามป้ายความผิดที่เกิดอุบัติเหตุให้เธอ
คืนนั้น เพื่อเห็นแก่เงิน 6,000,000 บาท เธอถูกญานี ตบสองครั้ง
ครั้งที่สอง เธอทำแบบเดิมอีก แต่คราวนี้เป็นตาของน้องชายเธอ
การลงโทษก็เหมือนกัน ตบสองครั้ง และญานีก็เป็นคนลงมือกับเธออีกครั้ง
คืนนั้นปากของเธอมีเลือดออกจากการถูกตบและใบหน้าของเธอก็บวมเป่ง
“ที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือเธอมีใบหน้าที่เหมือนฉัน”
ช่างเป็นคำพูดเย็นชาอะไรเช่นนั้นที่ออกมาจากปากคนน่ารังเกียจเช่นเธอ
คราวนี้เธอยังจะทำแบบเดิมอีกไหม?
ญานีดึงมือของเธอกลับมาแล้วแสยะยิ้ม "ตอนนี้มาทำขึงขังเพราะมีเงินแล้วหรือไง?" เธอหัวเราะเยาะพลางพูดว่า “ทำไมเธอไม่บอกแม่ว่าเธอไปล่ะ ว่าได้เงินมายังไง มันมาจากการขาย..."
“ญานี เยลส์!” ดวงตาของชินีหรี่ลง เธอขยับเข้าไปใกล้แล้วขู่ว่า “แน่ใจนะว่าอยากทำแบบนี้ เธออยากให้เป็นข่าวหรือไง”
ญานีตกตะลึงและมองดูเธอด้วยความพิศวง
“นี่เธอกำลังขู่ฉันเหรอ?” เธอตะโกน
“ฉันแค่เตือนว่าเธอควรมีเมตตากับคนอื่น โดยเฉพาะเมื่อคนๆ นั้นเป็นแม่เธอ!” น้ำเสียงของเธอเย็นชาถึงขีดสุด
ญานีจ้องเธอด้วยสีหน้ามุ่งร้าย แววรุนแรงแล่นปราดผ่านดวงตาของเธอ
“รอดูไปเถอะ มาดูกันว่าคุณพ่อจะจัดการกับเธอยังไง!”