บทที่ 4
มาเดลีน รู้สึกว่าเธอไม่สามารถเข้าถึงผู้หญิงคนนี้ได้เลย ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เมเรดิธที่เธอเคยรู้จัก
นับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในตระกูลครอว์ฟอร์ด นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้พบกับเมเรดิธ เมื่อเวลาผ่านเธอรู้สึกว่าหญิงสาวเป็นคนมีน้ำใจและอ่อนโยน แต่ทว่า ณ ตอนนี้...
“น่าหงุดหงิดดที่สุด! ทั้งเวลาและความตั้งใจของหนูเสียมันไปอย่างศูนย์เปล่า อุตส่าห์ลงทุนสร้างสถานการณ์และคิดแผนการวางยาเจเรมี่ให้ออกมาสมบูรณ์แบบ หนูยังจ้างนักข่าวมาถ่ายภาพและบันทึกหลักฐานว่าหนูอยู่กับเขาทั้งคืน และสิ่งแรกที่หนูควรจะได้รับคือในตอนเช้าจะต้องมีข้อความจากผู้อาวุโสวิทแมนที่ยินยอมให้เขาแต่งงานกับหนู ใครจะไปรู้ว่าหนูดันอ่านเลขห้องผิดและนอนกับคนข้างถนนที่น่าสมเพชที่สุด หนูปล่อยให้มาเดลีนได้รับสิ่งนั้นไป!”
และนี่คือความจริงคือโฉมหน้าที่แท้จริงของพี่สาวที่เคยแสนดีคนนั้น คนที่พยายามร้องขอความเมตตาครั้งนี้ให้เธอเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
หัวใจของมาเดลีนกำลังเต้นแรงมาก เธอรู้สึกถึงความเสียใจอย่างที่สุด
นี่คือผู้หญิงที่ใจดีอ่อนโยนเพียบพร้อมไปในทุกด้าน เธอเป็นเช่นนั้นเสมอในสายตาของเจเรมี่!
ในสายตาของทุกคนเธอเป็นหญิงสาวที่มีนิสัยอ่อนหวานและมารยาทดี มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม
ไม่มีอะไรที่แปลก ผู้หญิงคนนี้มีศักดิ์เป็นพี่สาวคนโตที่เธอได้ให้ความเคารพ เสมอมา
“แกมันโง่ เข้าห้องผิดได้ยังไง?” โรส แม่ของเมเรดิธหันไปตวาดใส่ลูกสาว
“ก็แค่อยากให้มันสนุกกว่านี้เลยให้เขากินยา ใครจะไปรู้ว่ามันจะมีฤทธิ์เยอะขนาดนี้” น้ำเสียงของเมเรดิธเริ่มร้อนรน “พวกเราจะทำอย่างไรดี? หนูไม่ต้องการให้นังนั่นอยู่ในฐานะคุณนายวิทแมนอีกต่อไป! เจเรมี่ คือผู้ชายของฉัน!”
“มันง่ายมาก ดูสิว่าตอนนี้เจเรมี่ วิตกกับมันแค่ไหน เพียงแค่แกเอ่ยปากเขาจะต้องหย่ากับเด็กที่ร้ายกาจคนนั้นแน่นอน!” จอห์นมั่นใจ
โรสเริ่มหัวเราะด้วยความสนุกสนาน “พ่อของแกพูดถูก เจเรมี่ถูกตาเฒ่าคนนั้นบังคับให้แต่งงานกับหล่อน คนที่เขารักจริง ๆ คือแก ตราบใดที่แกพูดอะไรออกไปตำแหน่งของคุณนายวิทแมนจะตกเป็นของใครถ้าไม่ใช่แก!”
เมเรดิธยิ้มเยาะ “ผู้หญิงเเพศยาคนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้าต่อกรกับหนูเพื่อแย่งเจเรมี่ไป ถ้าดีเอ็นเอในไขกระดูกของมันไม่ตรงกับของหนู จะไม่มีวันอนุญาตให้ก้าวเข้ามาในบ้านของเราแน่นอน รู้ไหมว่าหนูรู้สึกเบื่อหน่ายทุกครั้งที่ต้องทนเรียกมันว่าน้องสาว”
เมื่อได้ยินทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของพี่สาวที่แสนดี มาเดลีนรู้สึกถึงแสงสว่างของเธอที่เริ่มดับลง ความเหน็บหนาวที่เริ่มคืบคลานขึ้นมาจากด้านล่างสุดของปลายเท้า
คราว์ฟอร์ด ไม่ได้ต้องการอุปถัมภ์เธอด้วยเจตนาที่ดี แต่มันเป็นเพราะในเวลานั้นเมเรดิธเองที่เป็นคนต้องการไขกระดูกของเธอ
ตลอดระยะห้าปีที่ผ่านมา คำว่าน้องสาวที่เมเรดิธเรียกออกมาทุกครั้งนั้นเเป็นเพียงการแสดงความรักแบบตีสองหน้า
เมื่อใดก็ตามที่เธอไม่ปรากฏตัวให้เห็นรอบๆ วงสนทนา มาเดลีนก็ไม่มีค่าอะไรสำหรับพวกเขา
เฮ้อ
การกระทำแดกดันนี่
มาเดลีน รู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นทันที ความเป็นจริงโสโครกเช่นนี้ทำเธอรู้สึกอึดอัดเหลือเกิน
“น่าหงุดหงิดชะมัด! หนูตั้งใจจะจัดฉากการฆ่าตัวตายครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อให้เขาหย่าร้างกับนังเเพศยานั่น แต่ก่อนที่จะมีโอกาสได้บอกไป เขาดันมีประชุมที่เข้ามาด่วนแล้วรีบออกไป” เมเรดิธบ่นอย่างหัวเสีย
การพยายามฆ่าตัวตายของเมเดลีนครั้งนี้ได้ถูกจัดฉากขึ้น เมเรดิธต้องการเเสดงให้เจเรมี่เห็นและนั่นเพื่อที่จะทำให้เขาหย่ากับมาเดลีนโดยเร็วที่สุด
มาเดลีน รู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไร้สาระขึ้นมาในทันที จะเป็นไปได้หรือผู้ชายเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถในทุกด้านอย่างเจเรมี่จะตกหลุมรักผู้หญิงอย่างเมเรดิธ?
“เมอร์ อย่าห่วงเลย แม่จะเป็นคนโทรหาเจเรมี่เอง จะบอกเขาว่านังตัวดีมาที่นี่เพื่อก่อเรื่องขึ้นอีกและพยายามยั่วยุให้แกฆ่าตัวตายหลังจากที่มันสติแตก แม่แน่ใจว่าเขาจะยอมหย่ากับมันเมื่อเรื่องมันป็นแบบนี้”
แผนการของโรสดังขึ้นภายในห้องและดูเหมือนเมเรดิธเองก็พอใจไม่ใช่น้อย
“คุณแม่ฉลาดมาก ลงมือเลยเถอะค่ะ!”
ความหวังสุดท้ายของมาเดลีนสำหรับความมิตรภาพที่เหลืออยู่ได้สลายลงในพริบตา
เธอหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะย่างเท้าเข้าไปทันทีที่ประตูถูกผลักให้เปิดออกโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใด ๆ “ฉันเองก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันว่าตราบใดที่ฉันยังมีลมหายใจตำแหน่งของคุณนายวิทแมนจะไม่มีทางเป็นของเธอ เมเรดิธ!”