บทที่ 3
มาเดลีนล้มลงบนพื้นหลังจากถูกเตะ เธอเอามือป้องท้องอย่างปกป้องโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เธอจะได้อธิบายอะไร จอห์นก็ตบหัวเธออีกครั้ง
“นังตัวดี! ทำไมเมเรดิธ ต้องฆ่าตัวตายเพื่อคนอย่างเธอ! เธอคือคนที่สมควรตาย!”
คำพูดของจอห์นกัดฟันพ่นคำพูดนั้นออกมาทีละคำ เขาเหยียดหยามดูถูกมาเดลีนเข้ากระดูก
“พ่อ ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ถูกลิขิตมาให้คู่กับเจเรมี่ ดังนั้นฉันจะไม่โทษแมดดี้เลย” เสียงเมเรดิธเริ่มสะอื้นดังขึ้นช้า ๆ อีกครั้งจากอีกด้านหนึ่งของห้อง
มาเดลีนมีเลือดไหลที่มุมตรงริมฝีปากในหัวของเธอได้แต่พึมพำด้วยความเจ็บปวด เธออดกลั้นต่อความปวดร้าวที่มีก่อนจะเงยหน้าขึ้น ภาพที่เห็นคือเมเรดิธ พิงซบหน้าอกของเจเรมี่ ด้วยเหตุนี้น้ำตาเธอจึงไหลออกมาจากดวงตาทั้งสอง
เจเรมี่ประคองเมเรดิธที่สะอื้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนขณะที่เขาปกป้องเธอ
ฉากตรงหน้าดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มันทิ่มแทงอยู่ในหัวใจของมาเดลีน
หากไม่มีสิ่งผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นภรรยาของเจเรมี่คงต้องเป็นเมเรดิธไม่ใช่เด็กที่เลี้ยงไม่เชื่องภายใต้ชายคาบ้านของคนอื่น
ถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้แต่ในขณะนี้เธอรู้สึกผิดอย่างมาก
“เมอร์ นี่แกยังเข้าข้างนังตัวดีนี้อีกงั้นเหรอ? ถ้ามันไม่วางกับดักนั้นในตอนนี้ คุณนายเเห่งวิทเเมน คงเป็นใครไม่ได้นอกจากเเก! แกคงไม่เสียใจถึงขนาดอยากฆ่าตัวตายเพราะถูกแยกจากเจเรมี่ เเกใจดีเกินไปที่ยังเข้าข้างมันอยู่!” จอห์นรู้สึกขุ่นเคืองใจแทนลูกสาว
“พ่อค่ะ อย่าพูดแบบนั้น...” เมเรดิธ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะมองไปยังมาเดลีนด้วยสายตาที่เจ็บปวด “แมดดี้ ถ้าเธอชอบเจเรมี่ก็ มาบอกฉันตรง ๆ ก็ได้ ฉันจะไม่ต่อสู้เพื่อที่จะได้เขามา ทำไมเธอถึงทำขนาดนี้เพื่อที่จะแย่งเขาไป? ฉันผิดหวังในตัวเธอมาก”
“เมอร์ ฉันไม่ได้…”
“แกกล้าพูดได้ยังไงว่าไม่ได้ทำ!” จอห์นโมโหมาก “แกยังคงพยายามที่จะดื้อรั้นไม่ยอมรับอีกใช่ไหม? ดีเลยฉันจะได้ฆ่าแก!”
จอนยกเก้าอี้ในห้องขึ้นมาหลังจากที่เขาพูดแบบนั้น มาเดลีนรู้สึกกลัวมากมือของเธอกำลังปกป้องเด็กในท้องของเธอ
“ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่? อยากถูกฆ่าหรือไง” เจเรมี่พูดอย่างเย็นชา
จอห์นนิ่งค้างขณะที่เขายังจับเก้าอี้แน่น
มาเดลีนตัวสั่นและรีบลุกขึ้นจากพื้น
เพื่อลูกในครรภ์เเล้วเธอต้องรีบออกไปโดยเร็วที่สุด
เธอก้มศรีษะลงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้พบเห็นและผู้คนที่วิพากษ์วิจารณ์เธอ เธอปิดบังใบหน้าที่บวมและกะเผลกขาวิ่งหนีอย่างทุลักทุเล
เมื่อเธอมาถึงยังประตูทางเข้าเธอสังเกตุได้ว่าโทรศัพท์ของเธอไม่ได้อยู่กับตัว เธอจึงจำเป็นต้องหันหลังกลับไป
ระหว่างทางเข้าลิฟท์ประตูก็เปิดออกโดยบังเอิญมาเดลีนเห็น เจเรมี่เดินออกมาจากที่นั่น
เขายืนตัวตรงแบบไม่มีความกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ด้วยรูปลักษณ์ของเขาที่สง่างามทำให้เขาดูโดดเด่นที่สุดในฝูงชน
มีบางอย่างทำให้มาเดลีนอดสงสัยไม่ได้ เหตุใดเขาจึงกลับไปเร็วนัก เขาไม่ควรอยู่กับเมเรดิธนานขึ้นอีกหน่อยเหรอ?
เธอไม่กล้าพอที่จะคิดเรื่องนี้มาก เธอจึงก้มศีรษะลงและเดินเข้าไปข้างในลิฟต์
เธอเหมือนโจรที่หน้าไม่อาย เธอเดินย่องไปที่ประตูห้องเมเรดิธ ก่อนจะเห็นโทรศัพท์ที่ตรงมุมกำแพง
มาเดลีนต้องการมาเอาโทรศัพท์เพียงเท่านั้นเธอก็จะจากไปแต่ทว่าในขณะที่เธอก้มตัวลงเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเต็มพลังของเมเรดิธ ดังผ่านประตูออกมา
“ฮ้าา ~หนูรู้สึกมีความสุขที่สุด เมื่อคิดถึงสภาพของยัยเด็กบ้านนอกนั่นถูกทุบตีจนแทบยกศีรษะขึ้นไม่ได้”
เด็กบ้านนอก?
มาเดลีนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ยัยเด็กบ้านนอกหมายถึงเธอหรอ?
“ฮึ่ม! ถ้าคืนนั้นหนูไม่ได้เดินเข้าห้องผิด คนที่จะใช้เวลาอยู่กับเจเรมี่ทั้งคืนคงเป็นหนู! หนูจะปล่อยให้ยัยบ้านนอกนั่นได้ฉกฉวยประโยชน์นี้ได้ยัง หนูรู้สึกขยะแขยงมากทุกครั้งที่หนูคิดว่าเจเรมี่ต้องถูกทำให้มัวหมองจากยัยบ้านนอกนั่น!”
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เมเรดิธพูดเช่นนั้นใบหน้าของมาเดลีนก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว เธอตัวแข็งทื่และรู้สึกราวกับว่ามันยากที่จะหายใจ
ความจริงที่เริ่มปรากฏชัดออกมา แต่เธอใจไม่กล้าพอที่จะเชื่อมัน