บทที่ 1
เพียะ!
เสียงตบดังก้องกระทบกับใบหน้าของ แคทเธอรีน โจนส์
“แกทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ พี่สาวของแกมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากกว่า 20 ปี และตอนนี้แกวางแผนที่จะแย่งผู้ชายไปจากเธอ แกช่างไร้ยางอายอะไรอย่างนี้!”
เธอปิดใบหน้าบริเวณที่โดนตบเอาไว้ แคทเธอรีนมองไปที่แม่ของเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณแม่ อีธานเป็นแฟนของหนู พวกแม่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ได้อย่างไร?”
แคทเธอรีนเพิ่งกลับมาที่บ้านหลังจากที่เดินทางไปติดต่อธุรกิจ แล้วก็ต้องมาพบกับพี่สาวที่หายไปนานของเธอ รีเบคก้า โจนส์ กำลังนั่งอยู่กับแฟนของเธอ อีธาน โลว์ บนโซฟา พี่สาวของเธอที่เพิ่งกลับมาได้ไม่นานกำลังกอดแขนของอีธานและดูเหมือนจะสนิทสนมกับเขา
ที่นั่งอีกด้านหนึ่งของโซฟามีทั้งรีเบคก้า และครอบครัวของอีธานที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ความจริงแล้ว อีธานคือคนรักของแคทเธอรีนตั้งแต่สมัยยังเด็ก!
เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากมาหารีเบคก้าเพื่อถามเธอ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเธอกลับถูกแม่ของเธอตบหน้าอยู่ตรงนั้น!
“คุณแม่คะ ได้โปรดหยุดตีเคธี่” รีเบคก้าพูดด้วยท่าทางเป็นกังวล “มันเป็นความผิดของหนู หนูไม่ควรกลับมา...”
อีธานรีบโอบไหล่ของเธอเอาไว้ “ไม่รีเบคก้า เป็นความผิดของผม ผมปฏิบัติกับแคทเธอรีนเหมือนกับน้องสาวของผมมาโดยตลอด ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเข้าใจความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอผิดไป”
ดูเหมือนกับว่ามีบางอย่างระเบิดในหัวของแคทเธอรีน ความรู้สึกเจ็บปวดที่แสนสาหัสนี้ ทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก
น้องสาวอย่างนั้นเหรอ?
ทำไมเขาถึงแอบสัญญากับเธอว่าจะอยู่ด้วยกันในอนาคต ถ้าเขาทำกับเธอเหมือนกับว่าเธอเป็นแค่น้องสาวของเขา?
“หุบปาก!” เธอรู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นเกินจะทานทน และพวกเขาก็ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง
“แกนั่นแหละที่เป็นคนที่ควรจะหุบปาก นี่คือวิธีที่แกควรจะใช้พูดกับพี่สาวของแกอย่างนั้นหรือ?” คุณนายโจนส์บอกกับเธอด้วยท่าทางบึ้งตึง “แกยอมให้รีเบคก้าบ้างไม่ได้หรืออย่างไร คิดว่าเธอผ่านความยากลำบากมา 20 ปี?”
แคทเธอรีนตกใจจนอ้าปากค้างเล็กน้อย
การยอมย่อมต้องมีขีดจำกัด ทำไมเธอถึงต้องยอมเลิกกับคนรักของเธอ? เธอเองก็ไม่ใช่นักบุญเหมือนกัน
เมื่อถึงจุดนั้น คุณนายโจนส์ก็ยืนขึ้นและบอกเธอด้วยท่าทางอมทุกข์เช่นกัน “มีอะไรอีกไหม? อีธานก็ไม่ได้รักแกเหมือนกัน ตอนนี้พวกเรายังต้องปรึกษากันถึงเรื่องงานหมั้นของรีเบคก้า ไสหัวไปได้แล้ว แกมันเป็นตัวรกหูรกตาของที่นี่”
แคทเธอรีนตัวสั่นเทา และมองไปที่อีธานที่ไม่สนใจเธอเลย จากนั้นเธอก็มองไปที่รีเบคก้าที่อยู่ใกล้กับเขา
ทันใดนั้นเอง เธอรู้สึกราวกับว่าถูกหัวเราะเยาะ
คนเหล่านี้คือคนที่เธอรักมากที่สุด ทว่าในขณะนั้นพวกเขาทุกคนกลับเข้าข้างรีเบคก้า
น้ำตาไหลอาบแก้มของเธอ
หลังจากที่เช็ดน้ำตาออกแล้ว แคทเธอรีนหันหลังและจากไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของเธอโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
เธอเร่งความเร็วเมื่อเธอขึ้นไปบนรถ Maserati
ด้วยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เธอจึงจอดรถและโทรหาเพื่อนสนิทของเธอ เฟรยา ลินช์
“มาดื่มกันสักแก้วสองแก้ว”
เสียงของเธอแหบแห้งท่ามกลางเสียงสะอื้นของเธอ เฟรยาตอบตกลงในทันที “ได้ ฉันจะไปถึงที่นั่นอีกครู่เดียว”
...
เมื่อเฟรยาไปถึงยังผับ S1897 แคทเธอรีนก็ดื่มไวน์แดงหมดไปทั้งขวดเพียงลำพัง
“เธอมาได้ถูกเวลา มาดื่มด้วยกันเถอะ ฉันสั่งมาเยอะเลย เธอไม่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านจนกว่าเธอจะดื่มหมด”
แคทเธอรีนโยนขวดเบียร์ให้เฟรยา
“เกิดอะไรขึ้น?” เป็นเรื่องยากสำหรับเฟรยาที่จะเห็นแคทเธอรีนทำตัวแบบนี้ เธอรู้สึกสงสารแคทเธอรีนมาก “อีธานอยู่ที่ไหนกัน? เขาไม่สนใจเธอเหรอ?”
เมื่อเอ่ยถึงชื่อของอีธาน แคทเธอรีนรู้สึกราวกับว่ามีมีดกำลังกรีดหัวใจของเธอ
“เขาทิ้งฉันแล้ว และเขากำลังจะหมั้นกับรีเบคก้า”
เฟรยาอ้าปากค้าง “เรื่องบ้านี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
แคทเธอรีนเล่าให้เธอฟังคร่าว ๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนเย็นวันนั้น
เฟรยารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ อีธานและแคทเธอรีนเป็นคู่รักกันตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่โรแมนติกกันตั้งแต่สมัยมัธยม
อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา แคทเธอรีนไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ ในขณะที่อีธานยุ่งอยู่กับงาน มันอธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาถึงยังไม่หมั้นกัน
ครอบครัวของพวกเขาทั้งสองคนก็รู้เห็นเป็นใจในเรื่องนี้ พวกเขายังอวยพรให้คนทั้งคู่อีกด้วย
ทุกคนในวงการบันเทิงต่างก็รู้ดีว่าทั้งคู่จะแต่งงานกันในไม่ช้าก็เร็ว
ในตอนนี้ มันกลับกลายเป็นว่าอีธานคบหาอยู่กับรีเบคก้า ซึ่งทำให้แคทเธอรีนกลายเป็นตัวตลก
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เธอและรีเบคก้าควรจะได้รับความสำคัญจากครอบครัวอย่างเท่าเทียมกัน พ่อและแม่ของเธอเสียสติไปหรืออย่างไร?”
แคทเธอรีนกำขวดไวน์เอาไว้ “พวกเขาคงจะรู้สึกว่ารีเบคก้าต้องทนแบกรับความลำบากมามาก ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว พวกเขาจึงอยากจะมอบสิ่งที่ดีให้กับเธอ”
เฟรยาตกอยู่ในความไม่เชื่อ “แต่เธอก็เป็นลูกสาวของพวกเขาเหมือนกัน!”
แคทเธอรีนฝืนยิ้มออกไป
“อ่า ตอนนี้รีเบคก้ากลับมาแล้ว คนที่พวกเขาสนใจคือรีเบคก้า”
“ตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาคือคนที่อยากให้ฉันแต่งงานกับอีธาน ตอนนี้ฉันกำลังจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง พวกเขาบอกว่าฉันยังเด็ก”
“นอกจากนี้ อีธานยังสัญญาว่าจะอยู่กับฉันตลอดไป แต่เขากลับเปลี่ยนใจไปแบบนั้น ฉันเกลียดเขา...”
ในช่วงจบประโยคของเธอ แคทเธอรีนเริ่มหายใจไม่ออก เธอถือขวดไวน์เอาไว้ และดื่มเข้าไปสองสามอึกและลิ้มรสของน้ำตาในปากของเธอด้วยเช่นกัน ในขณะนั้นเอง เธอเริ่มรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเล็กน้อย
“อย่าดื่มมาก กระเพาะของเธอไม่ค่อยดี เธอจะรู้สึกไม่สบายถ้าเธอดื่มมากจนเกินไป”
เฟรยาคว้าขวดไวน์ของแคทเธอรีนเพื่อเบนความสนใจของเธอจากมัน หลังจากนั้น เธอจึงเหลือบตามองไปรอบ ๆ ผับ
ด้วยความคาดไม่ถึงเธอเห็นร่างที่คุ้นเคย
“เฮ้ ดูตรงนั้นสิ!”
เฟรยาผลักแคทเธอรีน และชี้ไปที่ผู้ชายคนนั้นที่กำลังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง
แม้ว่าจะมีแสงสลัวที่มุมนั้น ทว่าก็สามารถมองเห็นชายคนนั้นได้อย่างเลือนราง เขาสวมสูทซึ่งไม่เหมาะสมกับโอกาสนัก
ชายคนนั้นหลับตาลงและเอนหลังพิงพนักของโซฟา ให้ความรู้สึกถึงออร่าที่เปล่งประกายออกมา เมื่อสปอตไลท์หมุนส่องมาที่เขาเป็นครั้งคราว เขาดูน่าสนใจแม้กระทั่งใบหน้าของเขาที่ราวกับเสี้ยวหน้าที่สมบูรณ์แบบที่มักจะเห็นในหนังสือการ์ตูน
หลังจากมองอยู่ครู่หนึ่ง แคทเธอรีนก็ละสายตาจากเขา “ไม่ว่าเขาจะน่าสนใจแค่ไหน ตอนนี้ฉันก็ไม่มีอารมณ์ที่จะรื่นเริงไปกับสิ่งที่เจริญหูเจริญตานั่นหรอก”
“ฉันพยายามจะบอกเธอว่าผู้ชายคนนั้นเป็นลุงของอีธาน”
แคทเธอรีนตกตะลึงไปชั่วครู่ “เธอแน่ใจเหรอ?”
ก่อนหน้านี้อีธานเคยพูดว่าเขามีลุงที่ลึกลับ อย่างไรก็ตามลุงของเขาบริหารบริษัทอยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเจอเขา
ไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้ยินมาว่าลุงของเขากลับมาแล้ว
“ใช่ ฉันแน่ใจมาก พี่ชายของฉันบอกฉันตอนที่พวกเราไปร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลเมื่อวันก่อน ฉันได้ยินมาว่าเขายังไม่แก่และเขาฉลาดในการใช้เล่ห์เหลี่ยม แม้แต่แซคคารี่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา”
แซคคารี่ โลว์ คือพ่อของอีธาน
ดวงตาของแคทเธอรีนเป็นประกาย เธอมีความคิดผุดขึ้นมาในหัวของเธออย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ... เธอคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันแต่งงานกับลุงของเขา?”
“ห๊ะ...” เฟรยาตกใจมากจนพ่นไวน์ออกจากปากของเธอ “พูดอีกที”
แคทเธอรีนจ้องมองไปที่ร่างสูงที่หล่อเหลานั้น “เพราะว่าฉันไม่สามารถเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลโลว์ได้ ฉันจะเป็นป้าของอีธานเพื่อเติมเต็มคู่รักที่ไร้ยางอายด้วยความเกลียดชัง!”