บทที่ 13
”เอาล่ะครับ ผมต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้เธอสบายตัวระหว่างท้องคืออะไรครับ?” ฌอนสอบถาม
ในสิบนาทีต่อมา สัตวแพทย์ได้ให้คำอธิบายถึงรายละเอียดขั้นตอนการดูแล และให้คู่มือสำหรับแมวที่ตั้งท้องกับเขาในตอนท้าย “แมวที่ตั้งท้องจะต้องควบคุมอาหารที่กินให้มีประโยชน์ แมวของคุณค่อนข้างอ่อนแอ อาจจะเกิดภาวะแท้งได้ง่าย จะดีกว่าถ้าคุณจ้างคนมาดูแลครับ”
“...”
ฌอนพูดอะไรไม่ออก
ที่พวกเขากำลังพูดถึงยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ใช่ไหม?
ด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ เขาก็นึกถึงทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมของแคทเธอรีน มันอยู่ที่ว่าเขาที่อาจจะหยาบคายกับเธอมากเกินไปในตอนนั้น
ถูกแล้ว เขาควรจะเลิกพูดเรื่องที่จะให้เธอออกจากบ้านเมื่อเขากลับไปในภายหลัง
เมื่อเขากลับไปที่เจไดต์ เบย์ เขาเปิดประตูและเปิดไฟ
มีบางอย่างผิดปกติ
ประตูห้องพักแขกเปิดอยู่และไม่เห็นว่ามีใครอยู่ เขาไม่เจอเสื้อผ้าของผู้หญิงเลยแม้แต่ตัวเดียวในห้องนั้น
แคทเธอรีนไปแล้ว
คิ้วของเขาขมวดมุ่น
ฟัดจ์ร้องเหมี๊ยวอย่างเกียจคร้านในอ้อมแขนของเขา มันมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะก้มหัวของมันลงด้วยความผิดหวัง
เขารู้สึกหงุดหงิด แต่คิดว่าการจากไปของเธอคงจะดีกว่า
พวกเขาไม่ควรใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนานเกินไป
เขาสามารถให้ค่าตอบแทนเธอเพิ่มในวันที่หย่าร้าง
สำหรับเจ้าฟัดจ์ เขาสามารถจ้างคนมาดูแลได้ตลอดอยู่แล้ว
...
10: 00 น.
แคทเธอรีนที่นอนอยู่บนโซฟาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย
หลังจากที่เช็คอินเข้าห้องเมื่อคืน เธอพบว่ามีเส้นผมจำนวนมากอยู่บนที่นอน ผ้าปูที่นอนดูเหมือนจะยังไม่ได้ซักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เธอเป็นพวกรักความสะอาด ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไปนอนที่บนโซฟาแทน
เฟรยาโทรมาตอนที่เธอกำลังอาบน้ำ
“ที่รัก เธอไม่ได้อยู่กับสามีของเธอเหรอ? เธอไปอยู่ที่โรงแรมราคาถูกนั่นได้อย่างไร?”
“เธอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”
“อ้าว ทุกคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้ในแชทกลุ่ม” มีความหงุดหงิดในน้ำเสียงของเธอเล็กน้อย “ยัยผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้น เจเน็ต แคมป์เบล ถึงกับขุดอดีตของเธอขึ้นมา เธอบอกกับทุกคนว่าเธอโดนไล่ออกจากบ้านตระกูลโจนส์เพราะพี่สาวของเธอกลับมา พวกหน้าไหว้หลังหลอกพวกนั้นที่อิจฉาเธอตอนที่ยังเป็นคุณหนู ตอนนี้กำลังหัวเราะเยาะเธออยู่ไม่จบไม่สิ้น”
“เหรอ” เธอพึมพำ
เจเน็ต แคมป์เบล เป็นลูกสาวจากตระกูลที่ร่ำรวยในเมลเบิร์น พวกเธอทั้งสองคนเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันที่โรงเรียน
อย่างไรก็ตาม เจเน็ตอิจฉาแคทเธอรีนมาโดยตลอดในเรื่องความสวย และความประสบความสำเร็จทางด้านวิชาการที่โดดเด่น ด้วยเหตุนี้พวกเธอจึงไม่เคยเป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะทำลายชื่อเสียงของแคทเธอรีนเมื่ออีกฝ่ายตกอยู่ในสถานะที่ลำบาก
“เธอไม่โกรธเหรอ?” เฟรยาถามด้วยความรู้สึกโกรธ “เกิดอะไรขึ้น? เธอไม่เคยย่างกรายเข้าไปในโรงแรมที่ต่ำกว่าห้าดาวนะ”
“สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปแล้ว คุณพ่อระงับบัตรเครดิตของฉันทั้งหมดและฉันก็ไม่มีเงินมากนัก เมื่อคืนฌอนก็ไล่ฉันออกจากบ้านด้วย”
“แล้วทำไมเธอไม่มาหาฉัน?”
“มันดึกแล้ว ฉันก็ไม่อยากรบกวนเธอ”
“แคทเธอรีน เธอนี่โง่จริง ๆ บอกที่อยู่มานะ”
40 นาทีต่อมา เฟรยาก็มาถึง ดูเหมือนว่าเธอจะรีบมาอย่างรวดเร็ว
เธอรู้สึกสงสารเพื่อนของเธอ หลังจากที่มองไปรอบ ๆ ห้องเล็กและซอมซ่อนั้น มีแม้กระทั่งโปสเตอร์โฆษณาของหญิงขายบริการที่แอบมาติดที่ประตูโดยหญิงขายบริการที่เชิญชวนให้มาใช้บริการ
“ไม่เอาน่า ออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะแล้วไปอยู่กับฉัน”
“ไม่เอา เธอมีแฟนแล้ว แถมยังไม่ใช่ความคิดที่ดีในระยะยาว ฉันว่าจะเช่าบ้านอยู่”
แคทเธอรีนส่ายศีรษะปฏิเสธข้อเสนอนี้
หลังจากที่ลองคิดดูแล้ว เฟรยาจึงตกลง “นั่นก็ไม่เลวนะ อีธานมาที่บ้านของฉันอีกแล้ว เขามาตามหาเธอ น่ารำคาญจริง ๆ”
แคทเธอรีนรู้สึกอัดอั้นตันใจเมื่อได้ยินชื่อนี้
มีบางครั้งที่ผู้ชายคนนั้นจะเข้าข้างเธอทุกอย่าง อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาพูดเมื่อวานนี้
“เขาคือคนสุดท้ายที่ฉันอยากเจอในตอนนี้”
“ฉันก็เหมือนกัน” เฟรยาพยักหน้า ทว่าไม่นาน สีหน้าสับสนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ทำไมฌอนถึงไล่เธอออกจากบ้านในช่วงกลางดึกล่ะ?”
แคทเธอรีนฝืนยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นก่อนจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นคร่าว ๆ
เฟรยารู้สึกเห็นใจเพื่อนสนิทของเธอ “ผู้ชายคนนั้นน่ารังเกียจ เธอเป็นภรรยาของเขาตามกฎหมาย เธอมีความสำคัญน้อยกว่าแมวของเขาอย่างนั้นเหรอ?”
“มันไม่แปลกใช่ไหม?”
เฟรยามีท่าทางลังเล “อืม... ก็คงแบบนั้น เธอก็ตัดสินใจแต่งงานกับเขาอยู่ดี”
แคทเธอรีนยังคงเงียบ เธอรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอเลือกไปแล้ว
เฟรยาถอนหายใจออกมา “เอาล่ะ ไปหาอะไรกินกันเถอะ ฉันรู้จักร้านดี ๆ ที่มีอาหารที่ทำให้คิดถึงบ้าน เราสามารถเริ่มหาบ้านหลังจากที่อิ่มท้องแล้ว โอ้ ทำไมเราไม่ชวน ซินดี้ เทิร์นเนอร์ มาด้วยล่ะ?”
ระหว่างทางที่พวกเธอเดินทางไปยังร้านอาหาร แคทเธอรีนโทรซินดี้
“เฟรยากับฉันกำลังออกไปทานข้าวกัน นาน ๆ จะได้เจอกันสักทีนะ เธออยากจะตามมาสมทบไหม?”
“ฉันกำลังถ่ายภาพโฟโต้ชู้ตอยู่ ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร ไว้ค่อยเจอกันวันหลังก็ได้”
“เธอเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นทุกวัน เธอคงจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเป็นทุกวันนี้ ถ้าไม่ได้เธอเขียนและแต่งเพลงให้ในตอนนั้น” เฟรยาแสดงความคิดเห็นหลังจากที่วางสายไป
“ไม่ว่าอย่างไรเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ เป็นเรื่องปกติที่เธอจะไม่ว่าง”
...
ร้านอาหารเกรฟฟรุ๊ต เป็นร้านอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมที่เพิ่งมาเปิดที่เมลเบิร์น มีการออกแบบสนามกว้างขวางเอาไว้ตรงกลางของร้านอาหาร
มีรถหรูจอดอยู่ที่ด้านนอกร้านอาหาร ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีแต่พวกเศรษฐีเท่านั้นที่จะสามารถจ่ายเงินได้
พวกเธอจอดรถและเข้าไปในร้านอาหาร
พวกเธอเห็นคนสองสามคนที่มีใบหน้าคุ้น ๆ เมื่อพวกเธอก้าวเข้าไปในร้าน มีรีเบคก้า เจเน็ต อยู่ในร้านด้วยเช่นกัน
“ซินดี้!” เฟรยาเรียกผู้หญิงคนนั้น
ซินดี้ที่สวมแว่นกันแดดอยู่เผยรอยยิ้มที่ดูอึดอัดออกมา
ด้วยความหงุดหงิด เฟรยาเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับแคทเธอรีน
“เธอบอกเราในโทรศัพท์เมื่อไม่นานนี้ว่าเธอไม่ว่างกำลังถ่ายภาพโฟโต้ชู้ต แต่เธอกลับอยู่ที่นี่กับผู้หญิงพวกนั้น เธอรู้ไหมว่าพวกเธอเป็นใคร? เจเน็ตคือ ศัตรูตัวฉกาจของแคทเธอรีนและรีเบคก้าก็เป็นจิ้งจอกตีสองหน้าที่แย่งแฟนเธอไป”
“เธอพูดว่าใครตีสองหน้า? ระวังคำพูดหน่อย”
เจเน็ตก้าวออกมาผลักเฟรยาด้วยความหยาบคาย
แคทเธอรีนเอื้อมออกไปจับเพื่อนของเธอเอาไว้ ขณะที่เธอมองไปที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นด้วยความรังเกียจ
เธอคงจะไม่มาที่นี่ถ้าเธอรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าซินดี้ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังอย่างแท้จริง
“ซินดี้ ทำไมเธอถึงมาสังสรรค์กับพวกเธอ? รีเบคก้าก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เธอควรจะรู้ดีกว่าใครเกี่ยวกับเรื่องเก่า ๆ ของฉันกับเจเน็ต
“ทำไมล่ะ?” เจเน็ตคล้องแขนของเธอกับซินดี้ขณะที่มีความเหย่อหยิ่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “เธอยังต้องถามอีกเหรอ? เธอไม่เพียงแต่จะไม่มีสิทธิ์ในตระกูลโจนส์แล้ว แต่เธอยังเข้าพักในโรงแรมถูก ๆ อีกด้วย คนอย่างเธอไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนกับซินดี้หรอก เธอเป็นนักร้องที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้ ขณะที่เธอเป็นแค่หงส์ปีกหัก เธอมันไม่เหลือใคร”
แคทเธอรีนหรี่ตามองไปที่ซินดี้ “ฉันอยากได้ยินจากปากของเธอเอง”