บทที่ 2
“แ_่ง ไอผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าฉันเป็นเพียงคนธรรมดาที่เดินผ่านมา สวมเสื้อผ้าพวกจน ๆ แล้วทำไมฉันต้องรู้สึกกลัวด้วยวะ?”
ซุน เถิงหยาง ถ่มน้ำลายและอยากจะต่อยไอ้คนที่เดินผ่านมานี่สักที
อย่างไรก็ตามในครู่ต่อมา ชายผู้เดินผ่านมานั้นเหยียบย่ำซุน เถิงหยาง ที่ใบหน้าแนบแน่นลงกับพื้น ซุน เถิงหยาง ผู้น่าสงสาร!
เมื่อชายสองคนเห็นจึงรีบเข้าไปซัดชายผู้เดินผ่านมานี้ที่จู่ ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้น
ทันใดนั้น ทั้งหมดที่หลิง อี้หราน เห็นนั้นคือชายผู้เดินผ่านมาซัดชายหนุ่มทั้งสามคน ช่างเป็นฉากที่ค่อนข้างโหดเหี้ยมทีเดียว
ไม่ไกลจากตรงนั้นมีรถคนหนึ่งที่อยู่ในมุมสี่แยกที่เปล่าเปลี่ยวนั้น เกา ฉงหมิงซึ่งนั่งอยู่ในรถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขาและอธิษฐานพึมพำ”นายน้อยอี้ได้โปรดอย่าทำอะไรบ้าๆนะครับ!”
ถ้านายนายอี้ทำอะไรที่บ้าคลั่งลงไป ผลลัพธ์จะน่ากลัวอย่างคาดไม่ถึง คงไม่แปลกที่เขาจะฆ่าคน
เกา ฉงหมิง เคยเห็นพฤติกรรมอันบ้าคลั่งของเขามาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่อยากที่จะเผชิญกับมันอีกไปตลอดชีวิตของเขา
คนนี้ถนนถูกปิด ใครจะคาดคิดว่าคนห้าคนกับรถ Ferrari จะบุกเข้ามาที่นี่? พวกเขารบกวนนายน้อยอี้ที่ต้องการอยู่คนเดียว
ในวันนี้ของทุก ๆ ปี นายน้อยอี้จะปิดถนนทั้งสายเพื่ออยู่คนเดียวบนท้องถนนและสวมเสื้อผ้าเก่า
ไม่มีใครกล้าถามราวกับว่ามันเป็นเรื่องต้องห้าม
แม้ว่าเกา ฉงหมิงจะติดตาม อี้ จิ่นหลี มาหลายปีแล้ว แม้แต่เขาก็ยังไม่รู้เหตุผลเช่นกัน
ในขณะที่เกา ฉงหมิง มองดูนายน้อยของเขายกชายร่างอ้วนได้อย่างสบาย ๆ แล้วทุ่มศีรษะเข้ากับกำเเพงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่รู้ว่าควรจะหยุดเจ้านายของเขาดีไหม
แต่ทันใดนั้นเจ้านายของเขาก็หยุดต่อสู้กับชายคนนั้น เกา ฉงหมิง กะพริบตาด้วยความตกใจ เขาแน่ใจว่าเจ้านายของเขาหยุดลงเพราะผู้หญิงคนนั้นที่เกือบจะถูกข่มขืนพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้นายน้อยอี้หยุดการกระทำของเขา
หลิง อี้หราน กล่าวว่า "ถ้าคุณชกเขาอีกเขาจะตายนะคะ"
“เเล้วยังไง?” อี้ จิ่นหลี กล่าวพรางก้มศีรษะลงมองอย่างเยือกเย็นไปที่หลิง อี้หราน ผู้ซึ่งพยายามยืนให้อยู่ด้วยความยากลำบาก
หลิง อี้หราน ถึงกับชะงัก ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถจะเห็นหน้าชายคนนี้ได้ จนกระทั่งตอนนี้เธอสามารถเห็นชายคนนี้ได้อย่างชัดเจนเเจ่มเเจ้ง
เขาหล่อและจมูกที่โด่งตรงเป็นสันขึ้นรูป ริมฝีปากของเขาบางและดูมีไตล์ แม้ว่าเขาจะดูมีรูปลักษณ์ที่ดี แต่เขายังซ่อนอารมณ์สีหน้าไว้ไม่ให้ใครรับรู้
แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสน่หาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นมัวและความเฉยเมยแห่งตายภายใต้ผมหน้าม้าของเขา ราวกับว่าชีวิตของผู้คนนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเขาเลยทั้งสิ้น เขาไม่สนใจชีวิตของคนอื่นหรือแม้เเต่ชีวิตของเขาเอง
หลิง อี้หราน สูดหายใจเข้าอย่างลึก ๆ เเละพูดว่า “มันไม่คุ้มค่าที่จะถูกขังอยู่ในคุกเพราะคนห่วยๆแบบนี้”
หลังจากที่จ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ ในไม่กี่วินาที อี้ จิ่นหลี ก็คลายนิ้วมือของเขาออก ซุน เถิงหยาง รู้สึกราวกับว่ากลับมามีชีวิตอีกคครั้งโดยไม่สนใจว่าจะมีเลือดอยู่บนใบหน้าของเขาหรือไม่ ซุน เถิงหยาง รีบวิ่งไปที่รถพร้อมกับเพื่อน ๆ ของเขาทั้งสามคน จากนั้นก็หนีไป
ซุน เถิงหยาง แสยะยิ้มด้วยความมุ่งร้ายและพูดว่า “ฉันจะพาพวกมามากกว่านี้และซัดไอ้คนนั้นให้สาสม”
หญิงสาวเงียบงัน ม่านตาของเธอหดตัวลงเมื่อรู้ว่าชายที่เดินผ่านมานั้นดูคุ้นเคยเล็กน้อย งานเลี้ยงที่เธอได้เคยเข้าร่วมเมื่อก่อน เธอชำเลืองมองเขาจากระยะไกล ชายผู้เดินผ่านมาคนนั้นคือ… “เขาคือ อี้ จิ่นหลี คนที่เดินผ่านมาเมื่อกี้คือ อี้ จิ่นหลี!”
ชายหนุ่มอีกสามคนมองที่เธอด้วยความตกใจและถามว่า “อี้ จิ่นหลี ชายที่รวยที่สุดในเมืองเฉิน? เป็นไปได้ยังไง?”
“เเต่เขาดูเหมือนอี้ จิ่นหลี จริง ๆ นะ” หญิงสาวกล่าวด้วยความหวาดกลัว
ทั้งสี่คนหน้าซีดและมองหน้ากันอย่างมืดมนไร้หนทาง
——
หลิง อี้หราน จ้องมองไปที่ชายตรงหน้าของเธอและกล่าวด้วยความลังเล “สำหรับตอนนี้… ขอบคุณค่ะ”
“ทำไมไม่ขอความช่วยเหลือ” เขาถามทันทีในขณะที่จ้องมองเธอ
“ฉันคิดจริง ๆ ว่าคุณไม่มีทางจะเอาชนะพวกมันได้ ดังนั้นมันไม่จำเป็นที่ฉันจะหาเรื่องให้กับคุณ” เธอตอบ
เขาไม่พูดอะไร แต่เดินไปอีกฝั่งของถนนและนั่งพิงหลังกับกำแพง
“เขาไม่กลับบ้านหรือ? ตอนนี้อากาศหนาวเย็นและคืนนี้อุณหภูมิจะต่ำตั้งเเต่ 10 องศาไปจนถึงศูนย์ ถ้าคืนนี้เขานอนบนถนนนี่ พรุ่งนี้เช้าเขาจะยังมีขีวิตอยู่ไหมนะ?”
หลังจากพิจารณาว่าชายผู้นี้ได้ช่วยเธอไว้ หลิง อี้หราน จึงเริ่มเดินเข้าไปหาเขา
“ตอนนี้คุณไม่กลับบ้านเหรอ? ครอบครัวคุณอยู่ที่ไหนคะ? คุณมีหมายเลขโทรศัพท์ของพวกเขาไหม? ฉันสามารถช่วยคุณติดต่อพวกเขาเเเละขอให้พวกเขามารับคุณ” หลิง อี้หราน พูดในขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าชายผู้นี้
เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาแห่งความตายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่หาจ้องมองเธออีกครั้งเเต่ไม่ได้ตอบอะไรใด ๆ กับเธอ
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกราวกับว่าทุกอย่างหยุดนิ่ง
จู่ ๆ หลิง อี้หราน คิดถึงชีวิตอันน่าสังเวชของเธอในคุก
ย้อนกลับไปในตอนนั้นมันช่างเป็นช่วงเวลาที่มืดมนสำหรับเธอ แม้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่เเต่เธอก็ไม่มีความหวังอะไรใด ๆ
“ถ้าคุณไม่มีที่ไหนจะอยู่ ก็มากับฉันนะคะ” เธอกล่าวชักชวนเขา
——
หลิงอี้หรานไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะพาชายแปลกหน้ากลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอด้วยแรงกระตุ้น
บางทีอาจเป็นเพราะชายคนนั้นช่วยเธอไว้หรือเพราะเขาเตือนเธอถึงประสบการณ์ภายในคุก
“นี่คือที่ที่ฉันอาศัยอยู่ ถ้าคุณโอเคกับมัน ฉันจะปูเสื่อบนพื้นให้คุณได้พักผ่อน” หลิง อี้หรานกล่าว
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยังคงเงียบไม่พูดอะไร หลิงอี้หรานจึงหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่และแปรงสีฟันอันใหม่ออกมาแล้วมอบให้เขา “ไปชำระล้างในห้องน้ำก็ได้ เเต่ฉันไม่มีเสื้อผ้าให้คุณ อย่าทำให้เสื้อผ้าของคุณเปียกล่ะ”
เมื่อชายหนุ่มเข้าไปในห้องน้ำ หลิง อี้หราน ก็เริ่มจัดแจงปูเสื่อแล้วหยิบผ้านวมสำรองมา
อพาร์ทเมนต์ให้เช่ามีขนาดไม่ใหญ่ มีพื้นที่ครอบคลุม 10 ตารางเมตร เป็นสตูดิโออพาร์ตเมนต์พร้อมห้องน้ำ
เมื่อชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำผมก็เปียก เห็นได้ชัดว่าเขาสระผม แต่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า
เมื่อมองไปที่ผมที่เปียกของชายหนุ่ม หลิง อี้หราน ก็หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาและพูดว่า "โค้งตัวสิ"
ชายหนุ่มจับจ้องมาที่เธอ
"ฉันก็แค่อยากจะช่วยให้ผมคุณแห้งด้วยผ้าขนหนูนี่ ฉันไม่มีเจตนาร้ายอะไร" เธอกล่าว "ถ้าคุณไม่ทำให้ผมเปียกของคุณแห้ง คุณอาจเป็นหวัดได้ง่าย ๆ นะคะ"
เขายังคงจ้องมองเธอ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ช่างดึงดูดใจ "คุณเป็นห่วงผมหรือ?"
"ใช่" หลิง อี้หราน ไม่ได้หลีกเลี่ยงการสบตากับเขา "หลังจากพาคุณมาที่บ้านฉันไม่อยากให้คุณเป็นหวัด"
เขากะพริบตาและค่อย ๆ ก้มลง
หลิงอี้หราน ถามว่า "คุณชื่ออะไร"
เขานิ่งอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ตอบว่า "จิน"
“จิน” หลิง อี้หราน พูดชื่อของเขาซ้ำอีกครั้งและคิดว่ามันควรจะเป็นชื่อเล่น “ฉันชื่อหลิงอี้หรานคุณอยู่ที่ไหน? ครอบครัวของคุณล่ะ?”
“ฉันไม่มีครอบครัวหรอก” เขาตอบ
เธอก็ชะงักอย่างกะทันหัน "เขาอยู่คนเดียวเหรอ? นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นคนจรจัด?"
ในทางกลับกันครอบครัวของเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอรู้สึกราวกับว่าพวกเขาไม่ใช่ครอบครัวของเธอ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนคือเธอเช่าอพาร์ตเมนต์
"ดูเหมือนว่าเราอยู่ในเรือลำเดียวกัน" เธอกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าขณะที่เธอยังคงเช็ดผมให้แห้ง
เมื่อผมของเขาแห้งเธอก็วางผ้าขนหนูลงและหวีผมให้กับเขา
เมื่อเธอหวีผมม้าขึ้นไปบนศีรษะของเขา หน้าผากอันกว้างเต็มของเขา หลิง อี้หราน พบว่าเขาหล่อกว่าที่เธอคิดไว้
ลักษณะที่ดีของเขา เเต่ดูแข็งแกร่งเเละหาได้ยากในชาวเอเชียตะวันออก ตอนนี้แววตาของเขาไม่ว่างเปล่าเหมือนก่อน และเขากำลังมองเธอเหมือนกำลังจะสอบสวน