บทที่ 18
มาเดลีน คิดว่าเธอตอบกลับ เมเรดิธได้ดีอีกฝ่ายคงรู้สึกสะเทือนไม่น้อย แต่ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของเมเรดิธ เธอกลับรู้สึกพ่ายแพ้อย่างไร้ทางสู้
เจเรมี่ อยู่เคียงข้างหล่อนในการตรวจสุขภาพของแม่เด็กในระยะหลัง
มันควรจะเป็นสิ่งที่สามีภรรยา พึงกระทำแต่เจเรมี่กำลังให้ความสำคัญกับผู้หญิงอีกคน
เมเรดิธเดินนำหน้าด้วยความภาคภูมิใจ “แมดดี้เกิดอะไรขึ้น? คุณกำลังรู้สึกอารมณ์เสีย? หรืออกหัก?"
มาเดลีน กำหมัดแน่นเพื่อ ผ่อนปรนอารมณ์ที่ไม่สงบของตัวเธอเอง เธอปฏิเสธที่จะยอมให้ตัวเองเสียภาพลักษณ์ที่นิ่งสงบ “ไม่หลอก ฉันแค่รู้สึกว่าเธอช่างไร้ยางอาย”
ทันทีที่จบประโยค มาเดลีนจ้องมองใบหน้าที่เสียรูปทรงของเมเรดิธ
“นี่! เมเรดิธ ฉันเองไม่คิดว่าจะสามารถพบเจอผู้หญิงคนไหนที่ไร้ยางอาย และยังภาคภูมิใจแบบเธอ คนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งมากทั้ง ๆ ที่เป็นได้แค่เมียน้อย”
"แก..."
“วันหนึ่ง เจเรมีจะรู้ว่าลูกในท้องของเธอ มันไม่ใช่สายเลือดของเขา”
หน้ากากจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่เมเรดิธสวมอยู่ถูกฉีกออกจากใบหน้า ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มออกมาขณะที่เธอพูดว่า
“เจเรมีรักฉันมาก ต่อให้เด็กคนนี้จะไม่ใช่ลูกของเขา แต่เขาก็ยังคงรักเด็กคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่เหมือนกับเธอ ที่มีลูกของเขาแล้วยังไง? มันไม่ใช่แค่ว่าเขาไม่ต้องการนะ แต่เขาไม่เคยอยากให้เธอคลอดเด็กเหลือขอนั่น!”
เมเรดิธ กัดฟันคว้า มาเดลีนที่กำลังจะหันหลังกลับเพื่อเดินจากไป ทันใดนั้นใบหน้าของเมเรดิธ เริ่มกดต่ำลงเสียงสะอื้น ถูกส่งออกมาจากมือที่ป้องปาก เสียงของเธอดังมากในขณะที่เธอพูด
“แมดดี้ ได้โปรด ฉันรักเจเรมี ได้โปรดให้เขากลับมาหาฉัน”
อะไรอีก?
“แมดดี้ เธอแค่โวยวายและทุบตีฉันตามที่เธอต้องการก็ได้ แต่อย่าทำร้ายลูกฉัน! อ้าา!"
เมเรดิธกรีดร้องออกมาอย่างดูทุกข์ทรมาน ในขณะเดียวกันก็ปล่อยมือของแมดดี้ก่อนจะกลิ้งลงบันได
ตามสถานการณ์ รูปลักษณ์ตามแบบที่ออกมาเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาและความไม่คาดคิด มาเดลีน ถูกชี้เป้าว่าเป็นคนผิด มีคนชี้มาที่เธอและตะโกนว่า “ผู้หญิงคนนั้น เธอผลักผู้หญิงท้องตกบันได!”
“ไม่ใช่ฉัน! ฉันไม่ได้ทำ!”
มาเดลีนพยายามอธิบายอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีใครเชื่อเธอ
เธอต้องการลงไปดูสภาพของเมเรดิธ หลังจากเธอแกล้งออกแรงตกลงไป
มาเดลีนสะดุดไปข้างหลังและชนเข้ากับราวบันไดอย่างเจ็บเธอนั่งบนขั้นบันไดและกุมท้องของเธอซึ่งตอนนี้มีอาการเจ็บปวดอย่างมาก ในขณะที่ฝูงชนกำลังวิพากษ์วิจารณ์เธอ
เธอเฝ้าดูเจเรมีวิ่งลงบันไดและอุ้มเมเรดิธ ที่หมดสติไปอย่าบ้าคลั่ง
เขาเป็นสามีเป็นคนของเธอ แต่เขาเป็นห่วงผู้หญิงคนอื่นแทนที่จะเป็นเธอ เขาไม่เคยกังวลเกี่ยวกับเธอแม้แต่น้อยแม้ในตอนที่เธอถูกกล่าวหา หรือถูกตำหนิ
มาเดลีนมองไปที่ด้านหลังของ เจเรมี่อุณหภูมิในหัวใจของเธอก็ลดลงช้า ๆ จนแทบไม่เหลืออากาศหายใจ
‘เจเรมีทำไมนายถึงทำกับฉันแบบนี้?
‘ถ้าการตกหลุมรักคุณเป็นความผิดพลาดฉันเป็นบาปที่สุดเท่าที่เคยมีมา’
มาเดลีนรู้ดีว่านอกจากเขาจะไม่เชื่อว่าเธอไม่ได้ผลักแล้วสิ่งที่ เจเรมี่จะทำอย่างมากที่สุดก็น่าจะเป็นการด่าว่าเธออย่างร้ายกาจ
เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะโทรหาตำรวจ
มาเดลีนไม่มีเวลาได้รับฝากคลอดบุตรและการตรวจชิ้นเนื้องอกอีกต่อไป ตรงกันข้ามข้อมือของเธอถูกใส่กุญแจมือเย็น ๆ
นายตำรวจดูเคร่งเครียดก่อนจะเอ่ยปากพูดกับเธอ “มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด จากหลักฐานในมือและพยานเชื่อว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทำร้ายร่างกาย โปรดตามเรามายังไปที่สถานีเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป”
ก่อนที่มาเดลีนจะอธิบายได้เธอถูกนำตัวไปที่ห้องสอบสวน
มาเดลีนยังคงทำได้เพียงแค่พูดซ้ำ ๆ ว่าเธอไม่ได้ผลักดันเมเรดิธ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางหลักฐานที่เรียกว่าพยานรูปธรรมต่อหน้าเธอ
เป็นภาพการรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังคุยกับเมเรดิธ ที่บันได
ในขณะนั้นการแสดงออกของเมเรดิธ ดูเป็นมิตรเเละจริงใจ ในขณะที่มาเดลีนเองดูเย็นชา จากนั้นพวกเขาก็เริ่มผลักดันกันไปมาก่อนเมเรดิธ จะถูกมาเดลีน ‘ผลัก’ ให้ตกบันได
หญิงตั้งครรภ์สองคนมาที่สถานีเพื่อให้ปากคำ พวกเขาบอกว่าเมเรดิธขอร้องให้ มาเดลีนอย่าทำร้ายลูกของเธอเมื่อพวกเขาหันกลับไปก็พบว่าเมเรดิธถูกผลักตกบันไดไปเรียบร้อย
มาเดลีนเองตกใจไม่นัอย เมื่อเห็นหลักฐานและได้ยินคำให้การของพยาน
เธอถูกเมเรดิธิ ตีกรอบให้เป็นแบบนั่น การกระทำครั้งนี้สามารถหลอกทุกคนได้และผลของมันทำให้ เธอถูกคุมตัวนำขัง
มาเดลีนรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นลูกกรงและสภาพแวดล้อมที่มืดสลัว
หากเธอถูกตัดสินว่าทำร้ายร่างกายเธอจะต้องเข้าคุกแน่นอน อย่างไรก็ตามเธอตั้งครรภ์ในขณะนี้ เธอไม่สามารถปล่อยให้ลูกของเธอต้องทนทุกข์ทรมานกับเธอได้
เมื่อคิดได้ก็วิ่งไปที่ลูกกรงอย่างบ้าคลั่ง “ฉันถูกใส่ร้าย! ฉันไม่ได้ผลักใคร! อยากเจอสามี! ได้โปรดให้ฉันพบสามีของฉัน!”