บทที่ 13
คำครหาเสียงหลงของผู้หญิงคนนี้กำลังดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากให้หันมาสนใจ มาเดลีนพยายามรักษาไว้ซึ้งความสุภาพ “มาดาม คุณเองที่เป็นคนหันมาชนฉันเมื่อกี้ นอกจากนี้ฉันไม่ใช่แม่บ้านของตระกูลวิทแมน”
ผู้หญิงคนนั้นดูอึ้งไปสักพักก่อนจะกวาดสายตาดูชุดของมาเดลีนที่สวมใส่ รอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏบนใบหน้าที่สง่างามของเธอ “ใช่เธอก็ดูไม่เหมือนสาวใช้ แต่ดูเหมือนคนขอทานจากข้างถนนมากกว่า”
ไม่นานเสียงหัวเราะต่อกระซิกดังมาจากทางด้านหนึ่ง มาเดลีนเองไม่ต้องการโต้เถียงอีกต่อไป ขณะที่เธอกำลังเดินหลีกออกมาเธอก็เห็นเมเรดิธเดินสวนมาในเวลาเดียวกัน
การแต่งตัวที่เข้ากันกับทรงผมที่เกล้าขึ้นบวกกับการแต่งหน้าที่สวยงามทำให้เธอดูดีกว่าทุกครั้ง เมื่อเธอเห็นมาเดลีนเธอแสดงสีหน้าอาการตกใจ “โอ้ นี่เธอเองเหรอ แมดดี้”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินสิ่งที่เมเรดิธพูดเธอมองไปที่มาเดลีนอย่างดูถูก "คุณนายวิทแมน คุณรู้จักขอทานโง่ ๆ คนนี้ด้วยเหรอ?”
มาเดลีนนิ่งไปอย่างตกตะลึง อะไรกันผู้หญิงคนนี้คิดว่าเมเรดิธเป็นภรรยาของเจเรมี่ เห็นได้ชัดว่าเมเรดิธไม่ได้แก้ต่างในข้อนั้น ตรงกันข้ามเธอกับยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น
"คุณแลงฟอร์ดโปรดเมินเฉยเรื่องนี้ไปเพื่อฉันสักครั้งนะคะ”
“ถ้าคุณนายวิทแมนพูดแบบนั้น ฉันก็จะปล่อยมันไป” ผู้หญิงคนนั้นมองมาเดลีนด้วยความสายตาคาดโทษ “ระวังครั้งต่อไปให้ดีละกัน!”
มาเดลีนกำลังจะบอกว่าจริง ๆ แล้วเธอเป็นใคร แต่เมเรดิธหยุดเธอไว้และจับแขนเธอด้วยสีหน้าที่ดูเป็นห่วงเป็นใย “แมดดี้เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
มาเดลีนมองไปยังใบหน้าที่อวดอ้างสร้างขึ้นมาของเมเรดิธ เธอรู้สึกรังเกียจมันมาก แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเดินจากไปก็มีคนคว้าแขนเธอไว้
“อย่าเพิ่งไป!” เป็นผู้หญิงคนเดิมที่ชนเธอกำลังหยุดเธอไว้และผู้หญิงคนนั้นดูโกรธมากในตอนนี้ “ไม่แปลกใจเลย ทำไมเธอตั้งใจเข้ามาหาฉันด้วย เธอต้องการขโมยสร้อยข้อมือของฉัน!”
มันน่าแปลกมากเธอรู้สึกว่ามันผิดปกติ ในทางกลับกันเมเรดิธรีบวิ่งไปอธิบายอย่างร้อนรนในฐานะที่สวมรอบเป็นคุณนายวิทแมน “มาดามแลงฟอร์ด นี่จะต้องมีเรื่องเข้าใจผิด ถึงแม้แมดดี้เคยมีนิสัยชอบล้วงขโมยกระเป๋าของที่ไม่ใช่ของเธอ แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว”
มันฟังดูเหมือนไม่ใช่คำอธิบายเลยสักนิด คำพูดนั้นเหมือนยืนยันว่ามาเดลีนเป็นขโมยจริง ๆ
ข้อครหาเริ่มดังขึ้นและดังขึ้นไปรอบตัวพวกเขา มาเดลีนกังวลว่ามันจะทำลายชื่อเสียงของตระกูลวิทแมน เธอพยายามอธิบาย “ฉันไม่เคยขโมยอะไรมาทั้งสิ้น!”
“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครล่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นดูมั่นใจว่าเธอเป็นคนเอาไปจริง ๆ “สร้อยข้อมือฉันต้องอยู่ที่เธอแน่ตอนนี้! กล้าให้ฉันค้นตัวไหมล่ะ?”
มาเดลีนรู้ดีว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นมันก็ดีถ้าเธอต้องการจะตรวจสอบ ในขณะนั้นเมเรดิธรีบเดินไปจับกระเป๋าของมาเดลีน "มาดามแลงฟอร์ดฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องงความเข้าใจผิด เท่านั้นแมดดี้เปลี่ยนตัวเองแล้ว เธอจะไม่เป็นแบบนั้น เธอจะไม่ขโมยอีก…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยคท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไป
เธอมองมาเดลีนด้วยสายตาแห่งความผิดหวังก่อนจะหยิบสร้อยข้อมือราคาแพงออกมาจากกระเป๋าหน้าของมาเดลีน
“แมดดี้ ฉันไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้”
มาเดลีนตกใจมาก เธอรู้ดีว่าไม่ได้เอาอะไรของใคนทั้งนั้น แต่พวกเขากลับพบสร้อยข้อมือในกระเป๋าของเธอได้ยังไง
“เธอเป็นคนขโมยสร้อยข้อมือฉันไป ไอ้ขอทาน!” ผู้หญิงคนนั้นหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาเพื่อเเจ้งตำรวจ
ความวิตกกังวลกำลังกลืนกินเธอ วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 50 ปี คุณแม่ของเจเรมี่ แต่ทว่าหากลูกสะใภ้ของเธอถูกส่งตัวไปยังสถานีตำรวจในข้อหาว่าเป็นขโมยมันจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงตระกูลวิทแมนอย่างมาก มันจะไม่เป็นไรหากสิ่งที่เธอถูกกล่าวหาเป็นเท็จ แต่ชื่อเสียงของวิทแมนสำคัญกว่า
แขกจำนวนมากเริ่มมารวมตัวกันรอบ ๆ เมเรดิธเองแลดูผิดหวังมาก “แมดดี้ ฉันรู้ว่าตั้งแต่เด็ก เธอไม่เคยเห็นอะไรดี ๆ มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอมีนิสัยชอบลักขโมย เธอจะรับผิดชอบกับการกระทำนี้ได้อย่างไรในเวลานี้”
“ฉันไม่ได้ทำ!”
มาเดลีนอธิบายอีกครั้ง แต่ไม่มีใครเชื่อเธอ
ทันใดนั้นเธอนึกได้ทันทีว่าเมเรดิธจงใจเข้าใกล้เธออย่างไม่สมเหตุสมผล ณ ตอนนี้เธอเริ่มรู้ตัวทันที
เมเรดิธนั่นเองที่เป็นคนวางแผนเอากำไลมาใส่กระเป๋าเธอ!
ในขณะเดียวกันหญิงคนดังกล่าวได้โทรแจ้งตำรวจ ไม่นานตำรวจมาถึงยังสถานที่เกิดเหตุเเละนำตัวมาเดลีนไปให้ปากคำเรื่องทั้งหมดที่สถานี