บทที่ 11
”อ่า ทำไมผ้าขนหนูของคุณถึงหลุดลงมา?!”
แคทเธอรีนรู้สึกมึนงงไปหมดเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอกับสถานการณ์แบบนี้ เธอยกมือขึ้นปิดตาของเธอเอาไว้และนั่นคือตอนที่เธอรู้ว่าผ้าขนหนูอยู่ในมือของเธอ
นี่เธอ...นี่เธอบังเอิญดึงผ้าขนหนูของเขาลงด้วยด้วยความไม่ได้ตั้งใจหรือเปล่า?
“ผ้าเช็ดตัวหลุดเหรอ?”
เสียงเย็นชาของฌอนพัดผ่านแก้มของเธอราวกับน้ำแข็งเย็น ๆ “ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนหน้าด้านเท่าคุณมาก่อนเลย”
เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา ทว่ากลับไม่มีน้ำตาให้ไหล “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ ฉันเดินสะดุดพรมโดยไม่ได้ตั้งใจ”
“ผมเดินบนพรมนี้ทุกวันแต่ผมไม่เคยสะดุดมันมาก่อน ไม่เลยสักครั้ง ผมไม่เชื่อคำแก้ตัวที่ไร้สาระของคุณ” ผู้ชายคนนั้นไม่เชื่อเธอเลยแม้แต่น้อย
เธอกระพริบตาด้วยความว่างเปล่า ตอนนี้สถานการณ์ยากที่จะแก้ไข ดังนั้นเธอจึงตอบกลับไปอย่างบริสุทธิ์ใจ “บางทีการได้เห็นร่างกายที่ดูเหมือนพระเจ้าและสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของคุณแค่นิดเดียว สมองของฉันก็ว่างเปล่าและฉันก็สูญเสียการทรงตัวไป...”
ชายคนนั้นเย้ยหยันด้วยความโกรธ เขาเคยพบผู้หญิงมากมายในชีวิตของเขาแต่ไม่มีใครหน้าด้านเท่าคนนี้
“ตอนนี้คุณโยนความผิดมาให้ผมแล้วเหรอ?”
“ไม่ใช่นะคะ มันเป็นความผิดของฉันเอง จริง ๆ เพราะว่าฉันไม่มีประสบการณ์มากเท่าไรนัก...”
“คุณจะหยุดจ้องได้หรือยัง? ออกไปได้แล้ว” ฌอนไม่สามารถทนฟังได้อีก เขารู้สึกว่าเลือดที่กำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขากำลังเดือดพล่าน และพยายามอย่างหนักที่จะไม่ฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ
“ค่ะ แน่นอน ฉันจะออกไปทันที”
แคทเธอรีนรีบลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้าไปที่ประตู
“หยุดก่อน!”
น้ำเสียงหงุดหงิดดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ผู้ชายคนนั้นกำลังโมโหด้วยความโกรธและพูดขึ้นพลางกัดฟัน “คืนผ้าขนหนูให้ผมด้วย”
เธอก้มลงมองผ้าขนหนูที่เธอกำลังถืออยู่ เธอรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปให้พ้น ๆ
“นี่ค่ะ”
เธอหันไปเผชิญหน้าด้วยความกล้าทั้งหมดที่เธอมี และยัดผ้าขนหนูใส่ในมือของเขา
“...”
เขาพูดอะไรไม่ออกเมื่อเขารู้ทิศทางที่เธอกำลังมองมา
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย
ปัง! แคทเธอรีนปิดประตูตามหลังเธอพร้อมกับหอบหายใจ
ดูเหมือนว่าเธอจะสังเกตเห็นใบหูของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่เธอจะออกมาจากห้อง เขาอายเหรอ?
พูดตามตรง มันก็ดูน่ารักดี
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ เธอไม่กล้าอ้อยอิ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นอีกต่อไป และกลับไปที่ห้องนอนของเธอทันที
อย่างไรก็ตาม หัวใจของเธอยังไม่หายจากความรู้สึกแปลกใจนั่นเลย
เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนมาเคาะประตู
หญิงสาวกระโดดขึ้นด้วยความตกใจ ไม่กี่วินาทีเธอก็ตอบกลับอย่างแผ่วเบา “เราคุยกันพรุ่งนี้ได้ไหมคะ? ฉันง่วงแล้ว”
“คุณเปิดไฟตอนคุณนอนหรือไง?” เสียงทุ้มของฌอนดังลอดผ่านช่องประตูเข้ามา “อย่าให้ผมต้องไขกุญแจเข้าไป”
เธอเกาหัวด้วยความหงุดหงิดก่อนจะไปเปิดประตู
ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูสวมชุดนอนสีเทา ได้กลิ่นหอมสดชื่นของน้ำยาหลังโกนหนวดที่เขาใช้
กระดุมบนเสื้อนอนถูกติดเอาไว้จนครบเรียบร้อยแล้ว แม้แต่กระดุมด้านบนสุดก็ด้วย มันปิดไปถึงลูกกระเดือกของเขา ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นอากาศจึงไม่ได้หนาวจัด
“คุณมองอะไรของคุณ?”
ฌอนโมโหขึ้นมาอีกเมื่อเห็นรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของเธอ ผู้หญิงคนนี้ต้องทะลึ่งแน่นอน
โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา แคทเธอรีนไม่รู้ว่าการจ้องมองที่เขาหมายถึงคืออะไร “ไม่มีอะไรนี่คะ”
“คุณรู้แก่ใจ”
เขาก้มศีรษะมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น จากมุมนี้ ลำคอของเธอที่ปรากฏดูเพรียวและสวยงาม บางทีมันอาจจะเป็นเพราะแสงหรือสาเหตุอื่น ทว่าใบหน้าของเธอมองดูสว่างไสวด้วยความสวยงามของแสงจากพระอาทิตย์ตก
สายตาของเขาเคลื่อนลงไปตามแนวคอเสื้อของชุดนอนผ้าฝ้ายของเธอ
ทันทีที่ดวงตาของเขาหรี่ลงขณะที่เขาตัดสินใจแน่วแน่
“แล้ว คุณกำลังมองอะไร?”
เธอถามคำถามเดียวกันออกไป
การจ้องมองของผู้ชายคนนั้นดูคุกคาม จนเธอที่ซึ่งเตรียมตัวจะยั่วยวนเขารู้สึกกลัว เธอมองลงไปที่ด้านล่างและยกมือขึ้นปิดหน้าอกของเธอเอาไว้โดยสัญชาตญาณทันที
เขาเยาะเย้ย “ผมกำลังพยายามดูว่าคุณจะยั่วผมยังไง”
“...”
เธอพูดไม่ออก ยอมรับว่าเธอเคยคิดแบบนั้นมาก่อนเหมือนกัน ทว่าไม่ใช่ตอนนี้
“ฉันไม่...”
หญิงสาวหน้ามุ่ย ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอางของเธอดูสะอาดหมดจดเป็นธรรมชาติและสดใส
ฌอนละสายตาของเขา และแทนที่ด้วยความเฉยเมยบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา “ผมจะให้เงินคุณไปเช่าบ้านอยู่ที่อื่น มันไม่เหมาะสมที่เราจะอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน”
เขากำลังไล่เธอออกจากบ้าน
แคทเธอรีนรู้สึกลนลานเมื่อได้ยินเช่นนั้น “มันไม่เหมาะสมอย่างไรคะ? พวกเราแต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะคะ”
รอยยิ้มประชดประชันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ผมคิดว่าคุณรู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเราถึงแต่งงานกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอพยายามจะยิ้มออกมาให้มีเสน่ห์ที่สุดในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความเขินอาย “เป็นเพราะฉันตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกพบไม่ใช่หรือคะ? ตั้งแต่ตอนนั้น หัวใจของฉันก็ผูกติดอยู่กับคุณ”
“...”
พูดไม่ออก
คืนนั้นเขาต้องหลงเสน่ห์อยู่บ้าง
เธอพูดออกมาทันที “ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว คุณคงยังโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและมันเป็นเรื่องปกติที่จะคิดแบบนั้นค่ะ”
เธอกัดริมฝีปากสีชมพูของเธอราวกับว่าเธอกำลังพยายามตัดสินใจ
“ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันเปิดสิ่งที่ฉันมีอยู่เหมือนกันดีไหม?”
หลังจากนั้น เธอก็เอื้อมมือไปปลดกระดุมบนชุดนอนของเธอ
เขาหยุดหายใจไปชั่ววินาทีโดยไม่รู้ตัวก่อนที่เขาจะหันหลังกลับและกระแทบประตูปิด โดยไม่ลืมที่จะก่นด่าการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเธอ
เธอหายใจด้วยความโล่งอกขณะที่มองกระดูกไหปลาร้าของเธอ เธอรู้สึกว่ามันค่อนข้างตลกที่เขาออกไปจากห้องเสียก่อนที่เธอจะทันได้เปิดอะไรออกไป
แม้ว่าเขาจะอารมณ์ร้าย ทว่าเขาก็ยังคงเป็นสุภาพบุรุษ
มันค่อนข้างหายากที่จะเจอผู้ชายแบบนี้ในทุกวันนี้
...
ช่วงกลางดึก แคทเธอรีนตื่นขึ้นมาด้วยเสียงร้องไม่หยุดหย่อนของแมว
เธอลุกขึ้นจากเตียงและเปิดไฟ ฟัดจ์กำลังนอนอยู่ใต้โต๊ะ มันอาเจียนอย่างอ่อนแรง
“ฟัดจ์” ด้วยความตกใจ เธอเอื้อมมือจะไปอุ้มแมว ทว่าเสียงที่เย็นชาของฌอนดังขึ้นที่ด้านหลังของเธอ
“หลีกไปให้พ้น”
มือของเธอค้างอยู่กลางอากาศ เขาเดินเข้าไปอุ้มแมวขึ้นมา
ใบหน้าได้รูปของเขาแสดงความไม่แยแสออกมา และอยู่ห่างออกไปภายใต้แสงไฟที่ส่องสว่าง อย่างไรก็ตาม ภายใต้ผมสีดำที่ยุ่งเหยิง ลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มทั้งสองข้างของเขาเป็นประกายด้วยความอ่อนโยนชวนมอง
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
แคทเธอรีนรู้สึกสงสารและไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเห็นเจ้าแมวน่าเอ็นดูต้องทรมาน
“คุณคิดว่าอย่างไร?” ฌอนจ้องมองไปที่เธอด้วยความโกรธในดวงตาของเขา “เธอเป็นแมว แต่คุณกลับให้อาหารขยะกับเธอ คุณคิดบ้างไหมว่าท้องของเธอจะสามารถรับได้หรือเปล่า?”
เธอรู้สึกผิดมาก เธอเคยเจอแมวจรจัดมาก่อนมันกินเกือบทุกอย่างที่หาได้ตามท้องถนน นี่คือเหตุผลว่าทำไมเธอจึงคิดว่าแมวมีระบบย่อยอาหารที่แข็งแรง
“ฉันขอโทษค่ะ”
“ผมจะไม่ปล่อยคุณไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฟัดจ์!”
เขาจ้องมองเธอเขม็งก่อนจะลุกขึ้นยืน และคว้ากุญแจรถ จากนั้นเขาก็รีบออกจากบ้านพร้อมกับเจ้าฟัดจ์ในอ้อมแขนของเขา
เธอรีบตามเขาไปที่ลิฟต์ “ฉันรูจักสัตวแพทย์เก่ง ๆ ค่ะ ให้ฉันพาคุณไปนะคะ” เธอพูดอย่างร้อนรน
เขาเม้มริมฝีปากด้วยความเย็นชาโดยไม่สนใจเธอ
เมื่อลิฟต์หยุดที่ชั้นลานจอดรถ เขาก็ก้าวยาว ๆ ออกมาจากลิฟต์
เมื่อพวกเขาไปถึงรถ เธอเพิ่งจะเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารออกเมื่อท่อนแขนแกร่งดึงเธอไปที่ด้านหลังอย่างแรง
แคทเธอรีนที่สวมรองเท้าแตะเซถอยหลังไป เธอสูญเสียการทรงตัวและล้มลงบนพื้น
เขายืนอยู่ข้างหน้ารถ เธอหวาดกลัวกับความเกลียดชังที่รุนแรงซึ่งฉายแววออกมาจากดวงตาของเขา “ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ผมไม่ต้องการเห็นคุณอยู่ที่นี่เมื่อผมกลับมาถึงบ้าน ผมจะไม่ใจดีอีกแล้ว”
จากนั้นฌอนก็อุ้มฟัดจ์ขึ้นรถไป รถ Lexus สีขาวขับห่างออกไปในเวลาไม่นาน
ทิ้งหญิงสาวไว้ที่ลานจอดรถตามลำพัง ดวงตาของแคทเธอรีนเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาเมื่อเธอมองตามรถที่ขับออกไป ความคับข้องใจที่กักเก็บไว้มาทั้งวัน ในที่สุดน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูลงมาตามใบหน้าของเธอราวกับเขื่อนแตก
วันนี้ทุกคนต่างเย็นชากับเธอ เพื่อให้เธออยู่ห่าง ๆ
เธอไม่รู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลโจนส์อีกต่อไปแล้ว
มีเพียงฟัดจ์เท่านั้นที่ใจดีกับเธอ
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว
ริมฝีปากของเธอยกขึ้นยิ้มเป็นรอยยิ้มที่ประชดประชัน ทันใดนั้นเอง ภาพของฟัดจ์ที่อาเจียนก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ และเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
แคทเธอรีนรู้ว่าฌอนไม่สนใจเธอ แต่เธอก็ยังคงตามตื้อเขาอยู่ดีเพื่อที่จะทำเป้าหมายของเธอให้สำเร็จลุล่วง เธอทิ้งศักดิ์ศรีของเธอไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ทำอยู่นี้คุ้มค่าจริงหรือ?
เธอทำให้ฟัดไม่สบาย
บางทีอาจจะถึงเวลาที่เธอจะต้องไป