บทที่ 19: พี่สาว
เมื่อถึงหนึ่งทุ่ม งานเลี้ยงฉลองการหมั้นก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์
ด้านนอกฝนตกหนัก ชินี เยลส์สวมเสื้อผ้าบางและเดินเท้าเปล่า เธอเดินไปที่งานปาร์ตี้ทีละก้าวราวกับผีสาว
“พรุ่งนี้แกต้องไปร่วมงานหมั้นของพี่สาว แกต้องทำเหมือนว่าแกเปลี่ยนไปแล้ว หลังจากที่ทุกคนถ่ายรูปแกที่สำนึกได้แล้ว จากนั้นแกจะไปไหนก็ได้” นั่นคือคำสั่ง
[แกกล้าปฏิเสธหรือ? ฉันจะไม่ยอมให้ไปจากตระกูลเยลส์แน่]
[หลังจากที่พี่สาวของแกหมั้นแล้ว แกก็กลับไปเปลี่ยนชุดได้ แกควรขอบคุณโอกาสครั้งเดียวในชีวิตนี้จะดีกว่า!]
[แกไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปจนถึงพรุ่งนี้]
เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลเยลส์ เพื่อญานี เยลส์ เธอถูกกักบริเวณตลอดทั้งคืน
เหตุผลที่เธอย้อมผมเป็นสีดำในคืนนั้นก็เพื่อแสดงให้นักข่าวเห็นว่าเธอกลายเป็นคนใหม่
ทีแรกเธอคิดว่าเธอจะทนได้อีกวัน
เธอแค่ต้องทนไปอีกวัน หลังจากแม่ของเธอได้รับการผ่าตัด พวกเธอจะไปจากบรุคลินตลอดกาล
ทว่า ...
มือของเธอกำแผ่นกระดาษไว้แน่น
[ชินี แม่ไม่รู้ว่าหนูทรมานเพื่อแม่มากขนาดนี้ แม่รู้สึกขอโทษหนูเสมอ เพราะแม่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อหนูในฐานะแม่ แต่แม่ไม่อยากให้หนูต้องเจ็บ แม่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่ยังเด็ก และทนไม่ได้ที่เห็นหนูได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้ หนูรับผิดครั้งใหญ่แทนพี่สาวของเพื่อแม่ เจคอบช่างใจร้ายที่ใช้แม่มาขู่หนูครั้งแล้วครั้งเล่า ชินี แม่ไม่อยากรับรักษาตัวอีกต่อไป แม่ไม่อยากให้หนูกลายเป็นคนผิด แม่ไม่ต้องการให้คนอื่นด่าว่าหนู แม่ไม่อยากเป็นภาระของหนู แม่ขอล่วงหน้าไปก่อน หนูต้องมีชีวิตที่ดี ไม่ยอมสละความรู้สึกด้วยการให้คนอื่นมาก่อนและอย่าให้พ่อมาขู่หนูได้อีกต่อไป...]
เธอกัดริบฝีปาก ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นขาวซีด
นั่นคือจดหมายที่เธอพบอยู่ใต้หมอนของแม่ผู้ล่วงลับ
ชินีหัวใจสลายหลังจากได้อ่าน...
เธอเกลียดเจคอบและญานี เยลส์
เนื่องจากพวกเขาทำให้ชีวิตของเธอต้องทุกข์ทรมาน ดังนั้นพวกเขาก็ไม่ควรได้มีชีวิตที่ดีเช่นกัน!
ขณะมองไปที่คลับส่วนตัวสุดหรู เธอก็ยัดจดหมายในมือเข้าปาก
การกลืนกระดาษนั้นเจ็บ แต่ความเจ็บปวดในหัวใจของเธอนั้นมากยิ่งกว่าสิ่งใดๆ
จากนั้นเธอก็ยิ้มกว้างแล้วออกเดิน...
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ข่าวของเธอกระจายไปทั่วทั้งบรุคลินและอินเทอร์เน็ต
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงจำเธอได้
ยิ่งกว่านั้น ในตอนเช้า ตระกูลเยลส์พาเธอกลับบ้านและประกาศต่อสาธารณชนว่าเธอจะกลับเข้าตระกูลเยลส์เพื่อทบทวนตัวเอง
พวกเขาเห็นเธอออกจากคลับหรูเพียงลำพัง
ตอนนี้เธอกลับมาอีกแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคิดว่าเธอจะมาร่วมงานหมั้นของพี่สาว
แต่ทำไมเธอไม่ใส่รองเท้าล่ะ? แล้วทำไมเสื้อผ้าของเธอถึงได้เปียก?
นี่เป็นเดือนธันวาคมและอากาศหนาวมาก
“คุณเยลส์ เป็นอะไรไหม” พนักงานรักษาความปลอดภัยเดินถือร่มมาถาม
ชีนียิ้มอย่างสุภาพแล้วตอบว่า “ขอโทษค่ะ เสื้อผ้าของฉันอยู่กับพี่สาวหมดแล้ว ฉันเพิ่งทำรองเท้าหาย ฉันคงคุยกับคุณไม่ได้ ฉันต้องไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณพ่อจะโกรธเอา "
พนักงานรักษาความปลอดภัยงุนงงแล้วรีบตอบไปว่า "ตกลง คุณต้องการร่มไหม"
ชินีไม่สนใจเขาและเดินต่อไป
ทุกคนในห้องโถงเป็นต่างเป็นคนดังในบรุคลิน
งานฉลองการหมั้นครั้งนี้ยังเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจอีกด้วย
วันนี้ญานี เยลส์แต่งตัวอย่างงดงาม เธอยืนอยู่ข้างชาร์ลส์ แฮงคส์ และดูเหมือนนางฟ้าตัวน้อย
ชาร์ลส์สามารถดึงดูดความสนใจเด็กสาวจากครอบครัวที่ร่ำรวยได้หลายคน อย่างไรก็ตาม พวกเธอไม่สามารถเทียบกับญานีที่งดงามได้
ชีนีผลักประตูเปิดออกเสียงดัง
อากาศหนาวเย็นภายนอกไหลเข้ามาในห้อง
ช่วยไม่ได้ที่ฝูงชนจะหันไปมอง
เธอยืนอยู่ตรงประตู ร่างกายของเธอเปียกโชกและเท้าของเธอเปลือยเปล่า เธอดูไม่จืดเลยทีเดียว
ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อพวกเขารู้สึกตัว พวกเขาก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน
"เกิดอะไรขึ้น?" จูลส์ ควินน์ดูไม่พอใจ
ชาร์ลส์รั้งแม่ของเขาแล้วส่ายศีรษะ
เวนดี้ จิลสแตะจาคอบ เยลส์ด้วยแขนของเธออย่างรวดเร็ว ส่งสัญญาณให้เขามอง
เจคอบหันกลับมาทันทีและเห็นชินียืนอยู่ที่ประตู
เขารีบเดินไปหาเธอด้วยสีหน้าถมึงทึง เขาพูดอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมแกแต่งตัวแบบนี้ ไปซะ!”
เธอมองเขาแล้วยิ้ม มีความเย้ยหยันซ่อนอยู่ในแววตาของเธอ
เจคอบเกลียดแววตานั้นที่สุด ราวกับว่าเขากำลังมองดูศัตรู เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่าทำตัวเป็นคนโง่ที่นี่ ออกไปซะ!” ขณะที่เขาพูด เขาก็คว้าข้อมือเธอและกำลังจะลากเธอออกไป
อย่างไรก็ตาม เธอสะบัดมือเขาออกไปแล้วเดินช้าๆ ไปหาคู่รัก
ญานีขมวดคิ้ว เธอรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอกลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า
เธอเดินขึ้นไปหาพวกเขาและเงยหน้าขึ้นมองญานี ดวงตาของเธอเติมเต็มด้วยความเศร้าโศกอย่างล้นเหลือ
“ทำไม...ทำไมเธอแต่งตัวแบบนี้...”
“พี่คะ...” ริมฝีปากของเธอสั่นระริก ญานีถูกน้ำเสียงแหบแห้งของเธอขัด
ทันใดนั้นเอง ญานีก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย “เธอเรียกฉันว่าพี่?” ญานีคิด
นี่ดูไม่เหมือนตัวเธอเอง
“แม่...ตายแล้ว..”