บทที่ 5
โรงพยาบาลแกรนด์เอเซีย
เจย์ไปที่ห้องมอนิเตอร์ ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ทำความเคารพเขาแล้วยื่นเอกสารรายงานให้
“ท่านอาเรส ข้อมูลของคนไข้ได้เข้ามาในระบบของเราเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว ทางเราได้ติดเครื่องติดตามตัวแก่คนที่ส่งข้อมูลของเธอตามที่ท่านได้สั่งไว้แล้วครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างแตกต่างจากคนในรูปที่ท่านให้มามากทีเดียว…”
สายตาของเจย์จ้องเขม็งไปที่หน้าจอ ชายหนุ่มคนนั้นเลื่อนเมาส์ ก่อนที่ภาพของหญิงสาวในชุดแนวพังค์จะปรากฏขึ้น
เจย์ขมวดคิ้วและพิจารณาหญิงสาวทรงผมเดรดร็อกอย่างตั้งใจ ปากที่ถูกทาไว้ด้วยลิปสติกและการแต่งตาอันโฉบเฉี่ยว เจย์พยายามระงับความรู้สึกไม่สบายใจที่เขากำลังรู้สึก
“ซูมภาพเข้าไป!” เจย์ตะคอก
ใบหน้าของโรสถูกขยายจากหน้าจอ นั่นทำให้ภาพอันคมชัดของใบหน้าเธอถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
เธอยังดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน…
เจย์หรี่ตาลง
โรสรอดจากการตามจับตัวอันยอดเยี่ยมของเขาไปได้ยังไง?
เขาไม่เข้าใจเลยว่าเธอใช้วิธีไหนในการหลบซ่อนตัวอย่างมิดชิด ทั้งๆที่ทั้งโลกกำลังตามหาเธออยู่ แต่การลงมือครั้งสุดท้ายในการแกล้งตายของเธอ ต้องยอมรับว่ามันค่อนข้างฉลาดมาก
เมื่อเจย์คิดว่าเขาถูกคนธรรมดาแบบโรสต้มซะเปื่อย ความภาคภูมิใจของเขาก็แทบจะระเบิดอย่างรุนแรง
“เกรย์สัน ไปจับเธอแล้วมัดเธอไว้” เจย์แสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“รับทราบครับท่าน” เกรย์สันตอบคำก่อนที่จะออกจากห้องไป
…
โรสกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในโถงทางเดิน เธอนั่งรอหมอตรวจอย่างใจจดใจจ่อ
หัวของเธอลุกเป็นไฟจากคำอธิบายไร้สาระของหมอเรื่องการรับตัวแม่ของเธอ
อย่างแรก มันมีปัญหาเกิดขึ้นกับเครื่องตรวจวัดทางการแพทย์ของแม่ ต่อมา จู่ๆก็มีคนไข้เยอะขึ้นแบบกระทันหัน จนไม่เหลือเตียงคนไข้เลย และนั่นทำให้เธอต้องรอข้างนอก
เพื่อให้การรักษาแม่ของเธอเป็นไปตามระเบียบและได้ผลดี โรสทำอะไรไม่ได้นอกจากรอผลการรักษาอย่างใจเย็น
ทันใดนั้น ชายหลายคนที่ใส่แว่นสีชาและสวมชุดดำก็เข้ามาหาเธอ
โรสรู้สึกได้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติ และกำลังจะเดินหนีเมื่อมีชายในชุดแบบเดียวกันหลายคนมาปิดทางเดินอีกฝั่งไว้
“คุณผู้หญิง ช่วยกรุณาตามพวกเรามาได้ไหมครับ?” เกรย์สันถอดแว่นกันแดดออกและถามด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ
ในที่สุดโรสก็รู้ตัวว่าเธอได้เดินเข้าหากับดักอย่างเต็มใจด้วยการมาที่แกรนด์เอเซีย
“คุณเป็นใคร? แล้วทำไมฉันต้องไปกับคุณ?” โรสถาม เธอพยายามทำใจให้สงบ
เกรย์สันตอบค่อนข้างชัดเจน “คุณผู้หญิง อย่าให้พวกเราต้องใช้กำลังเลย คนของเราค่อนข้างหยาบคาย เพียงแค่อุบัติเหตุเล็กน้อย เราก็อาจทำให้กระดูกซี่โครงของคุณหักได้โดยบังเอิญ”
นั่นเป็นอะไรไปไม่ได้อีกนอกจากการข่มขู่อย่างโจ่งแจ้ง
โรสรู้ดีว่าบอดี้การ์ดของเจย์ก็โหดเหี้ยมไม่ต่างจากเจ้านายของพวกเขา
ด้วยเหตุนี้ โรสจึงล้มเลิกที่จะต่อต้าน และตามเกรย์สันไปตามทางเดิน
เมื่อพวกเขามาถึงด้านนอกของห้องรับรอง โรสต่อต้านที่จะเข้าไปในห้อง เกรย์สันจึงกระชากประตูออกแล้วผลักเธอเข้าไปในห้อง โรสเซเข้ามาสองสามก้าวก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจย์ อาเรส
เจย์นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกสีดำซึ่งดูกลมกลืนกับชุดสูทสีดำของเขาอย่างลงตัว ภาพตรงหน้าทำให้เกิดบรรยากาศของความไม่สบายใจและจองหอง
เมื่อโรสเข้ามาในห้อง สายตาของเจย์จดจ้องไปที่หน้าเธอไว้วางตาทันที
“ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดที่อ่างล้างหน้าตรงนั้นซะ” เจย์สั่งเธอด้วยความเด็ดขาด
ความอวดดีที่เกินจะทนของเจย์ได้จุดไฟให้ความโมโหที่เคยสงบนิ่งอยู่ในตัวโรสลุกโชน
“คุณผู้ชายคะ มันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่จะต้องการดูดีที่สุด คุณรู้อะไรไหมคะ คุณทำตัวไร้เหตุผลและหยาบคายมาก” โรสเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่อง
เจย์โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วกล่าวอย่างรุนแรง “ต้องขอโทษด้วย บางทีฉันคงไม่ได้มองว่าเธอสวย”
“อะไร—“
“ดอกไม้แต่ละชนิดล้วนแล้วแต่มีความสวยงามของมัน มนุษย์ก็เช่นกัน มันคงช่วยไม่ได้ถ้าคุณเป็นพวกใจแคบ” โรสกล่าว เธอยังคงตั้งมั่น
“ก็ได้ ถ้าเธอไม่ยอมล้างหน้าเธอเอง ฉันจะเรียกคนมาทำให้เธอเอง” เสียงของเจย์ช่างนุ่มและละมุน แต่มันกลับเสียดแทงเข้าไปในกระดูกของโรส
“ไม่จำเป็น!” โรสรีบลุกขึ้น “ฉันทำเองได้”
เธอเดินไปที่อ่างล้างหน้า หมุนก๊อกน้ำ กวักน้ำเย็นๆสาดเข้าใบหน้าของเธอเอง เธอเช็ดหน้าของตัวเองก่อนจะเดินกลับไปหาเจย์
“เสร็จแล้ว”
เจย์มองหน้าที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนและขมวดคิ้ว เขาเอื้อมมือไปแตะใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีสันของเธอโดยสัญชาตญาณ “นี่มันเครื่องสำอางกันน้ำ?”
แม้ว่าเขาจะจับเมคอัพอันฉูดฉาดพวกนั้นไปแล้ว แต่นิ้วของเขาก็ไม่แม้แต่จะเปี้ยนด้วยซ้ำ
“ฉันให้เวลาเธอสามนาที ตอนนี้เลย ไปล้างหน้า ไม่งั้นล่ะก็ ฉันจะให้หนึ่งในคนของฉันมาลอกหนังหน้าของเธอออกซะ” เสียงของเขาเย็นเฉียบจนโรสรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในโลงศพน้ำแข็ง
โรสยังคงยืนกรานปฏิเสธอย่างหนักแน่นอยู่บนโซฟาตรงข้ามเขา “ฉันล้างมันออกไม่ได้” เธอกล่าวอย่างดื้อรั้น
“เข้ามา”
ด้วยคำสั่งของเขา ประตูก็เปิดออกพร้อมกับชายร่างกำยำกลุ่มหนึ่ง พวกเขาเข้ามาและยืนล้อมโรสถึงสองรอบ
โรสตะลึง เธอเริ่มตะกุกตะกัก “ไม่...ฉันหมายถึง...มันต้องใช้น้ำยาล้างเครื่องสำอาง...ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นี่?”
เจย์ส่งสัญญาณให้คนของเขา จากนั้นชายร่างใหญ่บางคนก็เข้ามาคว้าตัวเธออย่างรุนแรง หนึ่งในคนพวกนั้นล็อคคอของโรสไว้ และนั่นทำให้เธอมีปัญหากับการหายใจอย่างรวดเร็ว
คนที่เหลือนำน้ำยาล้างเครื่องสำอางออกมาแล้วฉีดใส่หน้าของโรสด้วยอย่างไม่แยเเส บางส่วนของมันซึมเข้าตาของเธอและมันทำให้ตาของเธอแสบ
จากนั้น ชายอีกคนก็นำแปรงสีฟันมาและเริ่มขัดหน้าของโรสอย่างรุนแรง
จบด้วยชายคนสุดท้ายนำน้ำแร่ขวดหนึ่งออกมาราดใส่ใบหน้าของโรส
“เราเป็นอารยชนนะ ทำไมพวกเราถึงทำตัวเหมือนพวกมนุษย์ถ้ำกันเล่า?” โรสตะโกนด้วยความเดือดดาล
ด้วยความช่วยเหลือที่หยาบคายและบังคับขู่เข็ญ ใบหน้าที่แท้จริงของโรสค่อยๆปรากฏออกมา
เมื่อใบหน้าของโรสเริ่มดูคุ้นตาขึ้นเรื่อยๆ ท่าทีของเจย์พลันดูเกลียดลงเรื่อยๆ
“โรส ลอยล์!”
เมื่อหน้าที่ของพวกเขาหมดลง กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ปล่อยตัวโรส แล้วพร้อมใจกันออกจากห้องอย่างมีระเบียบ
ในขณะนั้น โรสดูเหมือนหนูจมน้ำ ด้วยใบหน้าที่เปียกโชกและเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำ อย่างน้อยที่สุด เธอก็อายจนแทบมุดแผ่นดิน
“ฉันเป็นโรสแล้วไง? จะกัดฉันงั้นสิ!” โรสเหวี่ยงกำปั้นไปทางเจย์อย่างโกรธเกรี้ยว เธอโมโหสุดขีด
ถ้าหากเจย์ไม่หลงเหลือความเห็นใจให้โรสเมื่อห้าปีก่อนล่ะก็ ตอนนี้เขาคงไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับเธออีก
ความหงุดหงิดอันเด่นชัดของโรสยิ่งทำให้รอยยิ้มชั่วร้ายของเขาฉีกกว้างขึ้น
ยัยนี่เคยเป็นแค่หุ่นเชิดที่เชื่อฟังและว่านอนสอนง่าย นิ่มนวลและจืดชืด
ใครจะไปคิดว่าเธอจะกลายเป็นหม้อใส่น้ำของปลาหมึกเจ้าเล่ห์ไปได้!