บทที่ 5 ปัญหาเกิดขึ้นแล้วซิ
หัวใจของเจนยังคงเต้นเร็วและรัว แต่ก่อนที่เธอจะทันได้รู้สึกโล่งใจทีตัวเองไม่ร่วงลงไปกองกับพื้น จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังโอบเอวของเธออยู่
“อุ้ยยย…” เจนตกใจและกรีดร้อง ตลอดทั้งชีวิตของเธอไม่เคยมีผู้ชายคนไหนโอบกอดแนบชิดเธอขนาดนี้มาก่อน จะเว้นก็แต่พี่ชายของเธอเอง ไม่เคยมีเลยแม้กระทั่ง…เขาคนนั้น
เซอรอสค่อยๆเงื้อมมือมาปิดปากของเจน “เงียบเดี๋ยวนี้นะ เธอจะกรี๊ดทำกัน” เธอนี่เป็นผู้หญิงที่พิลึกจริงๆผู้หญิงส่วนใหญ่จะกรีดร้องตั้งแต่ที่เข้าจะล้มลงที่พื้นแล้ว แต่กับเธอไม่แม้จะส่งเสียงออกมาซักแอะ แล้วทำไมจู่ๆเธอมากรีดร้องเอาตอนนี้หะ?
“ดะ-ดะ-ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ”
ไฮด์ เริ่มสังเกตุว่าตัวเธอสั่น และก็มีสิ่งหนึ่งผุดเข้ามาในหัวของเขา “นี่เธอคงไม่ได้กรี๊ดเพียงเพราะฉันโอบเอวของเธออยู่หรอกนะ?”ไฮด์สังเกตุผู้หญิงในอ้อมแขนของเขามีสีหน้าที่ซีด จนเขาอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา
เอะ... หรือว่าเป็นเพราะฉันเหยียบเท้าเธอหรอ?” เขาคิดบางอย่างก่อนจะเผยรอยยิ้มแปลกๆ ให้เธอ “ นี่คุณผู้หญิง อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่เคยถูกผู้ชายทำแบบนี้กับเธอมาก่อนอ่ะ?”
ไฮด์ เห็นว่าปฎิกิริยาของเธอมันช่างน่ารักน่าสนใจ และสังเกตุเห็นใบหูของเธอที่ตอนนี้มันแดงก่ำ เขากระชับแขนรอบเอวของเจนให้แน่นขึ้น
ฟิ้ววว!เสียงลมพัดผ่าน
ไฮด์มองไปที่เธอและเขาก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในพริบตาราวกับว่าเขาได้ค้นพบสมบัติล้ำค่ามากมายในเกาะร้าง เขาไม่คิดว่าสมัยนี้จะยังมีผู้หญิงที่แก้มและใบหูเปลี่ยนเป็นสีแดงจากการที่ถูกผู้ชายโอบกอด! มันชั่งหายาก! และน่าหลงใหลซะเหลือเกิน!
ไฮด์จมอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองด้วยความตื่นเต้น
เขาจงใจใช้มือลูบคลำไปที่เอวของเจน แต่เขากลับลูบไปเจอแต่ผ้าที่เอวของเธอ มัทำให้เขาแปลกใจเป็นอย่างมาก เขาเริ่มลูบไร้ที่เอวของเธอด้วยความรุนแรงที่มากขึ้น
“คุณจะทำอะไรอ่ะ?!”
เจนขัดขืนและผลักไฮด์ออกจากตัวเธอ ไฮด์มองไปที่เจน ด้วยความแปลกใจ “ เอวของเธอ…” เขาไม่รู้จะอธิบายยังงัยกับสิ่งที่เขาเผิ่งจะได้สัมผัสไป มันไม่เหมือนกับเอวของผู้หญิงทั่วๆไป?
ไฮด์เรียกว่าเป็นเสือผู้หญิงเลยก็ว่าได้เขาผ่านผู้หญิงมานับพันๆคน มีทั้งนางแบบและคนดังจากต่างประเทศมากมาย แต่เอวที่เขาเพิ่งจะสัมผัสไปนั้นบางกว่าผู้หญิงทั้งหมดที่เขาเคยผ่านมา มันบางมากจนเขาสามารถโอบกอดเอวนั้นได้ด้วยแขนเพียงข้างเดียวของเขา!
“เธอออ…” เขาพูดอย่างตะกุกตะกัก“นี่ซินะเหตุผลที่เธอต้องสวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้นขนาดนั้นในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวขนาดนี้” เขาจ้องมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้า สีหน้าและแววตาของเธอแสดงออกถึงความเจ็บปวดและไม่เห็นค่าในตัวเอง จนไฮด์ถึงขึ้นพูดไม่ออก
เวลาผ่านไปไฮด์ ยังคงไม่สามารถลืมและละสายตาจากแววตาของเจนในช่วงเวลานั้นได้ แววตาที่แสดงออกถึงควาปวดร้าวอ่อนแอและหยิ่งผยองในเวลาเดียวกัน ถึงจะดูขัดแย้งกันแต่มันกลับผสมผสานกันอยู่ในแววตาของเธอได้อย่างลงตัว
เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ ทำไมเธอถึงมีแววตาสองขั้วแบบนั้นกัน?
เจนผลักไฮด์ ออกไปและเริ่มวิ่งหนี แม้ว่าเธอจะวิ่งไปได้แค่สองก้าวก่อนจะสะดุดล้มลง เธอถอยกรูดจนหลังของเธอชนกับกำแพง เพื่อเว้นระยะห่างจากไฮด์ให้ได้มากที่สุด
ตอนนี้จิตใจของเธอยุ่งเหยิงไปหมด…ราวกับว่ามีคนค้นพบความลับที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตของเธอ
หลังจากที่เธอออกจากคุก เธอก็แค่ต้องการชีวิตที่สงบสุข ต้องการแค่อาหารและที่อยู่อาศัย สามารถเลี้ยงตัวเองได้และเก็บเงิน เพื่อที่จะได้ย้ายไปอยู่ที่ เอ๋อไห่ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่อยู่ห่างไกล ที่นั่นเธอจะสามารถมองเห็นน้ำทะเลใสๆและท้องฟ้าสีครามที่เธอใฝ่ฝันและไม่เคยเห็นในช่วงตลอดเวลาที่เธอติดอยู่ข้างในคุก
เธอไม่อยากมีปัญหาใดๆทั้งสิ้น
ไฮด์พยายามที่จะยื่นมือไปช่วยเหลือเธอ แต่เธอกลับถอยหนีราวกลับว่าเขาเป็นปีศาจที่กำลังไล่ล่าเธออยู่
ไฮด์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากถอยห่างจากตัวเธอ
ณ ห้อง 606
เจนเคาะประตูและเริ่มเดินเข้าไปข้างใน
ทันทีที่เธอเข้าไปข้างในห้องเธอสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันน่าขนลุกภายในนั้น ภายใต้แสงไฟสลัวๆเธอมองเห็นลูกค้าสองสามคนท่านนั่งอยู่ที่โซฟาและรายล้อมไปด้วยเหล่านนางแบบสาว สองสามคน
มีเพียงเด็กสาวที่ดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสายืนอยู่คนเดียวหน้าโต๊ะคริสตัลในห้องนั้น
เจนรู้จักผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นพนักงานเสิร์ฟที่เพิ่งมาเริ่มงานเธอชื่อ ซูซี่ ทอมสัน เธอเป็นเพื่อนร่วมห้องของเจนและเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเอส ที่เจนเคยศึกษาอยู่
“เจน…” จู่ๆซูซี่ก็เรียกชื่อเจนด้วยเสียงสะอื้น เจนสะดุ้งด้วยความตกใจและทุกส่วนในร่างกายของเธอก็เริ่มรู้สึกชาไปหมด
สายตาทุกคู่จ้องมาที่เจน เจนตอบกลับ ”ฉันเป็นพนักงานทำความสะอาดค่ะ มีคนเรียกฉันมาทำความสะอาดที่นี่ค่ะ” เจนพูดด้วยน้ำเสียงอันแหบพร่า
คนอื่นๆ ในห้องต่างขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ หลังจากที่ได้ยินเสียงของเจน
เจนทำงานที่ อีสต์เอ็มเพอเรอร์ เป็นเวลาสามเดือนแล้วดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าควรจะพูดให้น้อยๆ และทำงานเยอะๆ เธอเป็นพนักงานทำความสะอาด แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบเสียงของเธอเท่าไรนัก แต่ก็ไม่มีใครสามารถลงโทษเธอได้เพียงเพราะเสียงของเธอ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของซูซี่ที่นี่เห็นได้ชัดว่าอยู่นอกเหนือความสามารถของเจน ดังนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิด และสถานการณ์อาจจะเลวร้ายลงหากเจนพยายามเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้
เจนเอาแต่ก้มหน้าและเดินอ้อมซูซี่ มุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ ห้องวีไอพีทุกห้องจะมาพร้อมกับห้องน้ำในตัวแต่ละห้องมีอุปกรณ์ทำความสะอาดที่จำเป็นทั้งหมดในตู้ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ทำลายความสวยงามของห้องนี้
เจนออกมาจากห้องน้ำพร้อมไม้ถูพื้นและถังน้ำ
เธอเอาแต่ก้มหน้าทำความสะอาด โดยที่ไม่สนใจท่าทางอ้อนวอนขอความช่วยเหลือของซูซี่
สามปีที่เธออยู่ในคุกมันสอนให้เธอได้รู้ว่าเธอไม่ควรรับบทเป็นฮีโร่ ทั้งหมดนี้เพียงแค่การกระดิกนิ้วของผู้ที่ร่ำรวยมีอำนาจก็อาจจะผลักไสให้เธอไปสู่ชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายซะอีก เหมือนกับที่เธอเคยผ่านมา
ถึงซูซี่จะมีฐานะที่ค่อนข้างยากจน แต่เธอก็ยังมีพ่อมีแม่มีการศึกษา ในณะที่เจนไม่มีอะไรเลยเป็นแค่นังขี้คุกคนนึงเท่านั้นเอง
เธอไม่มีอะไรเลยและเธอไม่สามารถแบกรับความทุกข์ทรมารได้อีกแล้ว เธอไม่สามารถที่จะช่วยเหลือใครได้อีก
"เธอจะออกไปได้ก็ต่อเมื่อ เธอร้องเพลงนี้จนจบ" ชายคนหนึ่งพูดกับกับซูซี่
เจนแอบชำเรืองไปที่ซูซี่ และเห็นซูซี่กัดที่ริมฝีปากของเธอราวกับว่าเธอรู้สึกอับอายอย่างที่สุดและไม่อยากที่จะทำมัน "ฉันไม่…"
ทันใดนั้นเจนก็ทำไม้ถูพื้นของเธอหล่นและกลื้งไปที่รองเท้าของซูซี่ทำให้เธอตกใจและลืมสิ่งที่เธอกำลังจะพูด ออกมา เธอมองไปที่เจน
เจนเงยหน้าขึ้นและเอ่ยขอโทษ “ขออภัย ทีฉันเผลอทำไม้ถูพื้นไปโดนรองเท้าคุณนะคะ”
มันดูเหมือนจะเป็นอุบัติเหตุๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจแต่มันกลับดึงดูดความสนใจของผู้ชายในห้องนี้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
เจนได้ยินซูซี่มากระซิบข้างหูเธออย่างเคืองๆว่า“ฉันไม่ใช่นางแบบหรือพนักงานต้อนรับที่นี่นะ ฉันจะไม่ร้องเพลง! ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟ ที่ควรจะเสิร์ฟแค่ชาให้พวกเขาก็เท่านั้นเอง!”
ตอนนี้เจนเต็มไปด้วยความคิดที่ผิดและอยากจะบ้าตาย... มีบางคนที่เธอสามารถช่วยได้ และก็มีคนที่เธอไม่สามารถช่วยได้
เจนไม่รู้ว่าทำไมซูซี่ถึงเลือกแบบนี้ แต่ถ้าเจนอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเธอ ไม่มีทางที่เธอจะขัดขืนคำสั่งของพวกชายหนุ่มที่ร่ำรวยเหล่านี้เพียงเพราะไม่อยากจะร้องเพลง ใครก็ตามที่สามารถเข้ามาใช้บริการของห้องวีไอพีที่ อีสต์เอ็มเพอเรอร์ ได้จะต้องมีคอนเนคชั่นที่ดี มีอำนาจสูงดังนั้นพวกเขาจะทนต่อการไม่เชื่อฟังจากพนักงานเสิร์ฟเพียงคนเดียวได้อย่างไรกัน?
ซูซี่แสดงออกถึงความไม่เคารพพวกเขาอย่างชัดเจน ไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆแน่นอน
ชายหนุ่มที่ร่ำรวยพวกนี้ผ่านผู้หญิงมากหน้าหลายตาผ่านมาทุกประเภท เนื่องจากซูซี่เธอดูสวยและไร้เดียงสาพวกเขาเพียงอยากจะขอให้เธอร้องเพลงก่อนจะปล่อยเธอออกจากห้องไปเท่านั้นเอง หากซูซี่เชื่อฟังและปฏิบัติตามชายหนุ่มเหล่านี้สั่งมันก็จะไม่ทำให้เธอเดือดร้อนเลยแม้ซักนิด
ดูเหมือนว่าความพยายามของเจนในการช่วยเหลือซูซี่จะไร้ผล สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือความสนใจที่เธอไม่ต้องการ จากแขกเหล่านี้แทน
เจนคิดในใจ ‘ฉันควรจะจบเรื่องนี้โดยเร็วและรีบออกไปจากที่นี่ ยิ่งเร็วได้เท่าไรยิ่งดี ยิ่งอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่สิ่งต่างๆอาจจะยิ่งผิดพลาดมากขึ้น ฉันพยายามจะช่วยซูซี่ในตอนนี้ แต่ฉันอาจจะทำให้แขกในห้องนี้ขุ่นเคืองฉันแทน ฉันไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้ ฉันควรจะออกจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด”
“โอ้? หยิ่งนักใช่มั้ย” ชายในห้องพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ “ เธอจะไม่ร้องเพลงงั้นหรอ? งั้นก็ดื่มไวน์ขวดนี้ทีนี่ให้หมดแล้วค่อยออกไป”
“ชั้ลไม่ดื่ม! ฉันไม่ใช่เด็กนั่งดริ๊งที่จะมาดื่มกับพวกคุณ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าคุณจะไม่ดื่มงั้นหรอ” เสียงหัวเราะอย่างผู้ที่เหนือกว่าออกมาจากกลุ่มชายเหล่านั้น “ ฉันไม่คิดว่าคุณจะมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธนะ ใครก็ตามที่ทำงานที่ อีสต์เอ็มเพอเรอร์ ไม่ว่าจะเป็นเพียงเด็กเสิร์ฟหรือแม้แต่พนักงานทำความสะอาดก็ต้องเชื่อฟังลูกค้าทุกคำ ไม่ใช่หรือยังงัยกัน”
ทันทีที่เจนได้ยิน ‘พนักงานทำความสะอาด’ เธอก็สัมผัสได้ถึงลางร้ายในทันใด วินาทีต่อมาลางสังหรณ์ของเธอบ่งบอกแล้วว่ามันเป็นความจริง
“เฮ้ย ยัยผู้หญิงตรงนั้น เธอนั่นแหล่ะยัยผู้หญิงทำความสะอาด เธอเห็นด้วยมั๊ยหล่ะ”