บทที่ 5

เรื่องอื้อฉาวของ จี ยินเฟง เป็นกระแสมากในโลกออนไลน์ , และจี กรุ๊ปได้ทำการแถลงข่าวอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ในระหว่างการแถลงข่าว, จี ยินเฟง ได้ยอมรับว่าเป็นคนในรูปถ่ายเหล่านั้นจริงๆแต่ผู้หญิงในรูปนั้นไม่ใช่ผู้หญิงจากไนท์คลับแต่, เธอเป็นคู่หมั้นของเขา และเขาก็ประกาศว่าพวกเขากำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ การแถลงข่าวครั้งนี้ทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้นมาทันที ทัง โรลชูว แยกบางอย่างไม่ออกและก็สงสัยอย่างมาก นั่นคือผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัญญาว่าจะแถลงข่าวให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของเขา แล้วตอนนี้, เขาก็ได้ใช้คำสัญญานั้นกับผู้หญิงอีกคน เธอได้ปิดทุกอย่างเกี่ยวกับข่าวของเขาในคอมพิวเตอร์ปิดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ จี ยินเฟง อย่างไรก็ตาม, เธอไม่เคยคาดหวังว่า จี ยินเฟง จะกลับมาหาเธอหลังจากแถลงข่าวที่นั้น ทัง โรลชู สังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเพื่อนร่วมงานหลังจากจบการแถลงข่าวของ จี กรุ๊ป ได้ไม่นาน เธอถูกมองด้วยสายตาที่ดูถูกและเยาะเย้ย เธอรู้สึกแปลกๆกับท่าทางของเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่มองแล้วก็พูดเยาะเย้ยประชดประชันว่า, “ฉันบอกแล้วว่าผู้ชายที่แสนดีอย่างเขาจะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไง ผู้หญิงในรูปนั้นเป็นคู่หมั้นเขาไงล่ะ” “ฮ่าฮ่า, เธอไม่คิดว่าคนกุข่าวนี้จะหน้าด้านเกินไปไหม?” “ฉันได้ยินมาว่าบางคนต้องการแย่งคู่หมั้นของเขาเพราะงั้นเลยจงใจปล่อยข่าวเสียหายเพื่อหวังจะทำลายภาพลักษณ์ของเขา” “ฉันไม่อยากเชื่อเลยพี่น้องของเขาจะหน้าด้านขนาดไหน? รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาในทันทีเมื่อต้องทำงานร่วมกับคน ๆ นั้นในที่ทำงานเดียวกัน” ผู้หญิงเหล่านั้นมองไปที่ ทัง โรลชูว ในขณะที่พวกเขาพูด ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ทัง โรลชูว รู้อยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น เธอจำคำพูดสุดท้ายที่ จี ยินเฟง พูดเมื่อตอนบ่ายกับเธอได้: “โรลชู, แล้วเธอจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้!” ก็ไม่คิดว่า จี ยินเฟง จะเร็วขนาดนี้ละมันทำให้เธอเสียชื่อเสียงในที่ทำงานของเธอ เธอโกรธมจนตัวสั่นด้วยความโกรธ แสดงให้ถึงเนื้อในที่โหดเหี้ยมของพวกเขา เธอไม่ได้ทำอะไรให้ จี ยินเฟงและกู โรลโรล เลยพวกเขาพยายามเต็มที่ ๆ จะทำให้เธอเสียชื่อเสียงและไม่มีที่ยืนในสังคม “เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น, เธอกล้าพูดเรื่องไร้สาระอย่างนี้ได้ยังไง?” ซอง อันยีเตือนเพื่อนร่วมงานผู้หญิงเหล่านั้นเมื่อเธอเห็น ทัง โรลชูว กำลังทำหน้าเศร้า ... “ฮ่าๆๆ, ไม่มีไฟแล้วจะมีควันได้ยังไง ถ้าเธอไม่ได้ทำจะมีข่าวลือพวกนี้ได้ยังไง?” “ใช่เลยค่ะ ประธานจีดูเป็นแฟนที่ซื่อสัตย์ ฉันแน่ใจว่า ทัง โรลชูว ที่พยายามจะแย่งเขาแต่ไม่สำเร็จโดนปฏิเสธเลยรู้สึกแค้น ก็เลยใช้วิธีนี้ ใส่ร้ายป้ายสีเขา” “เธอดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นได้จริง ๆ นะ พี่สาวของเธอมีน้องสาวแบบนี้ช่างน่าสงสารจริงๆ” คำพูดของคนที่นินทาแต่มันฟังดูโหดร้ายมาก พวกเขาทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง และมีใครบางคนไม่พอใจที่ ทัง โรลชู มีผลงานที่โดดเด่นกว่าพวกเขา เขาไม่ยอมปล่อยให้โอกาสที่จะทำให้เธอตกที่นั่งลำบากนี้หลุดลอยไปเฉยๆ พวกเขาจึงวิจารณ์เธอเสียเสียหายหาย คำพูดของพวกเขาเป็นเหมือนลูกศรที่พุ่งเข้ามาทุกทิศทาง,พวกเขาทำแบบรุนแรงเป็นพิเศษ “หุบปากของพวกแกเดี๋ยวนี้นะ, ไม่งั้นฉันจะทำให้พวกแกเสียใจกับสิ่งที่แกทำลงไป,” ซอง อันยี พูดด้วยความโมโห เธอเป็นคนที่โมโหง่าย, เมื่อเธอเห็นว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นกำลังทำร้ายเพื่อนของเธอ, รีบขึ้นและมุ่งตรงไปหาพวกเขา “ซอง อันยี, คิดจะทำอะไรของเธอ?” ผู้หญิงเหล่านั้นไม่ใช่คนที่ควรจะล้อเล่นด้วยและพวกเขาได้เดินมารวมกลุ่มกันในขณะที่ ซอง อันยีเดินไปหาพวกเขา ซอง อันยี พูดด้วยความท้าทาย, “ฉันจะทำให้พวกแกรู้ว่าคนอย่างพวกแกสมควรโดนอะไร” เธอพุ่งเข้าใส่พวกเขาเหมือนรถไฟที่หลุดราง ไม่มีใครหยุดเธอได้, นอกจากนั้นเธอก็โดนเพื่อนร่วมงานของเธอจับไว้ ทัง โรลชู ตกใจมากเธอเลยพยายามดึง ซอง อันยี ออกมาก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่ ในความวุ่นวายนั้นมีใครบางคนผลักเธอทำให้เธอสะดุดล้มลงไปที่ขอบโต๊ะ เธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ถ้าหัวของเธอล้มลงไป “โรลชูว--” ซอง อันยี กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ … ทัง โรลชูว กำลังจะล้มลงแล้วจู่ ๆ ก็มีคนพุ่งเข้ามารับเธอได้ทันเวลา ภายในชุดดำรับเธอไว้ก่อนที่จะคว้าเธอมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาจับเธอด้วยมือข้างหนึ่ง และใช้มืออีกข้างป้องกันศีรษะของเธอ ขณะที่กอดเธอไว้ในอ้อมแขน การปกป้องของเขาแล้วเหมือนเขาเกิดมาเพื่อเป็นเทพบุตรประจำตัวของเธอโดยเฉพาะ เสียงเงียบสงัดเกิดขึ้นในที่ทำงาน การปรากฏตัวของผู้ชายคนนี้ทำให้ทุกคนทำตัวไม่ถูก ทัง โรลชูว ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เธอได้รู้อยู่แล้วว่าเธอกำลังจะล้มก่อนหน้านี้ แต่มารู้ตัวอีกทีก็ตกอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของผู้ชายคนนี้ ขณะที่เธอนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา, เธอได้ยินเสียงของหัวใจที่กำลังเต้นเป็นจังหวะอย่างชัดเจน เธอได้กลิ่นน้ำหอมของเขานักเรียนนั้นก็ดูคุ้นเคย มันเป็นกลิ่นที่จะง่ายแต่สดชื่น เธอสงบสติอารมณ์และมองขึ้นไปที่ผู้ชายคนนั้นที่รับเธอไว้ ถ้าเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาอย่างชัดเจน เขาสูงมากและมีออร่าที่สง่างาม อย่างถูกสร้างขึ้นมาให้สมบูรณ์แบบความเย็นชาของเขา ริมฝีปากที่เซ็กซี่และบางของเขาทำให้น่าสัมผัส ดวงตาที่ดำเป็นประกายเมื่อได้มองแล้วไม่มีใครกล้าขัดขืนแน่นอน เขาปรากฏตัวเหมือนพายุที่ทรงพลัง เขาโดดเด่นจนทำให้ทุกอย่างรอบตัวเขาหยุดชะงัก อันนี้คือ ลู ชินจิน จริงๆ “คุณ…” ตาของ ทัง โรลชู เปิดกว้างเมื่อมองเขาด้วยความประหลาดใจ … ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆก็ตกใจไม่แพ้กัน “นั่น… นั่นคือลู ชินจิน, ประธานของธันเดอร์โบลท์ เอนเตอร์เทรนเมนต์กรุ๊ปไม่ใช่หรอ?” “ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง, ใช่ไหม? เป็นไปไม่ได้ที่ลู ชินจินจะมาบริษัทของเราจริงไหม?” “ดูไม่ผิดแล้วล่ะ มันใช่เขา! มันคือเรื่องจริง!” “ดูสิ, เขายังกอด ทัง โรลชูว ในอ้อมแขนเขาอยู่เลย…” การปรากฏตัวของเขา ลู ชินจิน ในบริษัท, ทำให้เสียงรอบตัวของเขาดังอีกครั้งคนที่จำเขาได้ตื่นเต้นอย่างมากที่ได้เห็นเขา แล้วแต่เพื่อนร่วมงานที่กำลังทะเลาะกับ ซอง อันยี ก็อดไม่ได้ที่จะมองมาที่เขาเช่นกัน ลู ชินจิน เป็นคนในตำนาน! เขาควบคุมชะตากรรมในแวดวงบันเทิงมากกว่า 70%, ทำให้ไม่มีศิลปินคนไหนที่เซ็นสัญญากับบริษัทเขาจะไม่โด่งดัง ธันเดอร์โบลท์ เอนเตอร์เทรนเมนต์ กรุ๊ป เป็นที่รู้จักในฐานะนำแห่งวงการภาพยนตร์, ทำให้คนดังจำนวนนับไม่ถ้วนที่พยายามจะเซ็นสัญญากับ ธันเดอร์โบลท์ เอนเตอร์เทรนเมนต์ กรุ๊ป ในแต่ละปี ทุกคนยกย่อให้ ลู ชินจิน เป็นผู้ชายที่สง่างามและน่ายกย่อง แต่ก็มีผู้หญิงอีกมากมายที่อยากแต่งงานกับเขา ถ้า จี ยินเฟง ยกย่องให้เป็นผู้ชายในฝันของปังกิ่ง, ลู ชินจิน ก็เป็นเหมือนเทพบุตรในฝัน ของผู้หญิงหลาย ๆ คน เราเป็นคนที่ค่อนข้างไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว, ความลึกลับนั้นทำให้ผู้หญิงหลายคนได้จินตนาการถึงผู้ชายคนนี้ให้เป็นเทพบุตรในฝัน ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะปรากฏตัวในบริษัทข่าวบันเทิงไทม์ เขาก็ตกใจอย่างมากที่เขาได้เข้ามาช่วย ทับ โรลชูว เมื่อทุกคนเห็น ทัง โรลชูว อยู่ในอ้อมแขนของเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ทุกคนเกิดความอิจฉา